เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น โดยมาอยู่ที่ 105.64 เยนต่อยูโร ณ เวลา 10:42 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจากที่ทะยานแข็งค่าที่สุดแตะที่ระดับ 106.01 เยนต่อยูโร ซึ่งนับว่าแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.เลยทีเดียว
เมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์ ยูโรซื้อขายในอัตรา 1.3238 ดอลลาร์ หลังจากที่แข็งค่าในระดับ 1.3293 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ นับเป็นระดับแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเยน
ทั้งนี้ เงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังได้รับข่าวดีจากกรีซ เมื่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซนอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซรอบ 2 อีก 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยกรีซเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโร
อย่างไรก็ตามข้อตกลงในครั้งนี้ทำให้ผู้ถือพันธบัตรภาคเอกชนต้องลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลงอย่างน้อย 53.5% ซึ่งมากกว่าที่ตกลงกันในสุดยอดการประชุมเมื่อเดือนต.ค.ที่ 50%
ทางด้านนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มรมว.คลังยูโรโซน หรือยุโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า นักลงทุนภาคเอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ เห็นพ้องต้องกันว่าจะยอมรับการขาดทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือกรีซ ด้วยการยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5%
นายยุงเกอร์กล่าวว่า นักลงทุนภาคเอกชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนาคารพาณิชย์และกองทุนเพื่อการลงทุนนั้น ได้ตกลงที่จะทำการสว็อปหนี้ ด้วยการนำพันธบัตรที่ถือครองอยู่ในปัจจุบัน ไปแลกกับพันธบัตรชุดใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วลดลงและมีอายุการไถ่ถอนนานขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรรัฐบาลกรีซชุดใหม่จะเริ่มที่ 2% สำหรับช่วง 3 ปีจากเดือนก.พ.2555-ก.พ.2558 หลังจากนั้นจะอยู่ที่ 3% สำหรับช่วง 5 ปีต่อไปจากปี 2558-2563 และ 4.3% สำหรับช่วงเดือนก.พ.2563-ก.พ.2585