ยูโรแข็งค่าเทียบดอลลาร์และเยน ขานรับความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด แตะระดับสูงในรอบ 7 เดือน
ยูโรดีดตัวขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.3315 ดอลลาร์ ณ เวลา 10.37 น.ตามเวลาลอนดอน หลังแตะ 1.3343 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ 12 ธ.ค. และบวกขึ้น 0.3% ที่ 106.65 เยน
สถาบัน Ifo เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความชื่อมั่นธุรกิจ ดีดขึ้นสู่ระดับ 109.6 จุด จากระดับ 108.3 จุดในเดือนม.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2554 โดยดัชนีได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้ยูโรโซน ซึ่งช่วยบรรเทาความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐมนตรีคลังคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ปได้บรรลุข้อตกลงในการอนุมัติมาตรการช่วยเหลือรอบ 2 สำหรับกรีซวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และลดหนี้สินของกรีซลงเหลือ 121% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปี 2563
ก่อนหน้านี้ การหารือประเด็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ของกรีซได้ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ขณะที่กำหนดชำระหนี้ในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโรในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ก็กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในกรีซยังคงต้องเป็นที่จับตาดูต่อไป เพราะแม้มีการบรรลุข้อตกลงเงินกู้ช่วยเหลือกรีซดังกล่าว แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติงส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซจาก "CCC" สู่ระดับ "C" โดยฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่าในขณะนี้ฟิทช์มองว่าการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ “มีความเป็นไปได้สูงในระยะใกล้นี้"
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูการเปิดเผนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ จะมีการรายงานรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์