รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการลดการใช้จ่ายฉบับใหม่ เพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2 ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า
มาตรการดังกล่าวประกอบไปด้วยการปรับลดเงินบำเน็จบำนาญลงประมาณ 10-20% รวมทั้งไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนและปรับลดเงินเดือนข้าราชการพลเรือน และปรับลดอัตราค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนในภาคเอกชนลง 22% ซึ่งมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะช่วยให้รัฐบาลกรีซสามารถลดการขาดดุลการคลัง และเพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่รัฐสภาเยอรมนีลงมติให้การสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 496 ต่อ 90 เสียง นอกจากนี้ ยังมี่ขึ้นหลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศบลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงสู่ระดับ SD หรือ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" (selective default) ซึ่งทำให้ S&P เป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งที่ 2 ต่อจากฟิทช์ เรทติ้งส์ที่ปรับลด นดับของกรีซลง หลังจากกรีซประกาศแผนแลกเปลี่ยนพันธบัตรเพื่อลดภาระหนี้ของประเทศ
เงื่อนไขของการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งที่ 2 ซึ่งกำหนดขึ้นโดย "กลุ่มทรอยก้า" อันประกอบไปด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ), สหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารกลางยุโรป (ไอเอ็มเอฟ) นั้น จะช่วยให้กรีซสามารถชำระหนี้ในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะครบกำหนดส่งมอบในวันที่ 20 มี.ค.ได้ ซึ่งจะนอกจากจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้แล้ว ยังจะช่วยให้กรีซสามารถรวมกลุ่มอยู่ในยูโรโซนได้ต่อไป