นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ว่า โครงการรับจำนำมันสำปะหลังที่ได้เปิดโครงการเมื่อ 1 ก.พ.55 ที่ผ่านมามีเกษตรกรนำมันสำปะหลังมาเข้าร่วมโครงการแล้ว ณ 29 ก.พ.55 กว่า 7 แสนตัน จากจำนวนมันสำปะหลังที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดทั้งหมด 8-9 ล้านตัน และมีบางสวนได้ขุดออกขายโดยไม่ได้เข้าโครงการ จึงคาดว่าจะเหลือมันสำปะหลังที่รอเข้าโครงการประมาณ 6 ล้านบาท ในขณะที่ยังมีเกษตรกรได้นำมันสำปะหลังเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่มีจำนวนลานมันมาขึ้นทะเบียนกับองค์การคลังสินค้า (อคส.)เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปีนี้ คาดว่าอยู่ที่ 24-25 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อน เพราะมีผลผลิตมากขึ้น แต่ปีก่อนมีการส่งออกมาก ทำให้เกษตรกรมีรายได้ดี เพราะราคาดี จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น และทำให้ปริมาณออกมามาก แต่ปีนี้มีปัญหาด้านการส่งออก เพราะประเทศผู้นำเข้าชะลอ รัฐบาลมองว่ามันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่นำมาแปรสภาพได้หลายชนิด ในหลายอุตสาหกรรม เช่น กระดาษ รัฐบาลจึงต้องเข้ามาดูแลให้ประชาชนมีรายได้ที่พอเพียง
"การแทรกแซงราคามันสำปะหลัง ได้เตรียมการมาตั้งแต่ปลายปี 54 แต่มาเกิดน้ำท่วมประกอบกับราคามันช่วงนั้นยังไปได้ จึงได้เริ่มโครงการเมื่อ 1 ก.พ. ซึ่งวิธีการให้มันเข้าสู่ระบบต้องได้รับการรับรองจากคณะอนุกรรมการ ดูทุกจังหวัด มีเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ อคส. เพื่อตรวจสอบลานมัน ดูการทำสัญยาต่างๆ ตอนนี้มีลานมันที่ทำสัญญาไปแล้ว 400 แห่ง จาก 600 แห่ง ที่เหลือน่าจะทำสัญญาได้เร็วๆนี้เพื่อเกิดรับจำนำได้มากขึ้น" นายบุญทรง กล่าว
สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่มีลานมันเข้าโครงการ ได้มีการประสานไปยัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดวงเงินสินเชื่อผ่อนปรน 9 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 0% ให้เกษตรกรปลูกมันฯได้กู้ 30% ของพื้นที่เพาะปลูกเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างรอการขุดมัน เพื่อไม่ให้ต้องมีการเร่งขุดมันเพื่อนำมาเข้าโครงการ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้จนกว่าจำนำมันสำปะหลังได้ นอกจากนี้ได้มีการขยายเวลาให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเข้าโครงการไปจนถึง 31 มี.ค.55
ในส่วนปัญหาการทุจริตในโครงการได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย และได้มอบเป็นนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการ ทำหน้าที่การสอดส่องดูแลการรับจำนำอย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการสวมสิทธิ และเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่หากพบปัญหาต้องเร่งแก้ไข ไม่ให้ปัญหานำไปสู่การเดินขบวนเรียกร้องจากเกษตรกร และหากพบการทุจริตจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งทันที
นายบุญทรง ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เริ่มโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.55 สิ้นสุด 15 ก.ย.55 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวประมาณ 10-11 ล้านตัน แต่เข้าโครงการประมาณ 8 ล้านตัน โดยตั้งแต่เปิดโครงการได้มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าโครงการแล้ว 3-4 หมื่นตัน มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียน 30-40% หรือประมาณ 2-3 แสนราย และมีโรงสีเข้าโครงการ 200 แห่ง