กระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยวันนี้ว่า รายได้ด้านการคลังของจีนช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ปรับเพิ่มขึ้น 13.1% แตะระดับ 2.09 ล้านล้านหยวน (ราว 3.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบรายปี
อัตราการเติบโตรายปีลดลงจาก 24.8% ในปีที่แล้ว แต่ยังมากกว่า 10% ของช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
กระทรวงการคลังระบุในแถลงการณ์ว่า ภาวะชะลอตัวเป็นผลจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงผลผลิตอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง, การขยายตัวด้านราคาที่ผ่อนคลายลง, การลดภาษีด้านโครงสร้าง และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และหุ้นที่ลดลง
รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลส่วนกลางในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ปรับเพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.06 ล้านล้านหยวน ขณะที่รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลท้องถิ่นปรับเพิ่มขึ้น 15% แตะ 1.03 ล้านล้านหยวน
รายได้จากภาษีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.85 ล้านล้านหยวน ส่วนรายได้ที่ไม่ใช้ภาษีทะยานขึ้นถึง 51.1% แตะ 2.41 แสนล้านหยวน
นอกจากนี้ รายได้จากภาษีเงินได้ส่วนบุคคลลดลง 3.9% เมื่อเทียบรายปี มาอยู่ที่ 1.40 แสนล้านหยวน เนื่องจากรัฐบาลปรับเพิ่มอัตรายกเว้นภาษีรายเดือนจาก 2,000 หยวนเป็น 3,500 หยวน
รายได้จากภาษีการค้า เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบรายปี ไปอยู่ที่ 2.93 แสนล้านหยวน โดยรายได้จากภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลง 22.7% เนื่องจากยอดขายซบเซาลง
รายจ่ายด้านการคลังของจีนทะยานขึ้น 32.8% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 21.2% สำนักข่าวซินหัวรายงาน