สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 51 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 นอกจากนี้ การที่แข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันทองคำร่วงลงด้วย
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 51.3 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 1,642.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1652.0 - 1642.9 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.181 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 26.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,675.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 11.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 697.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการเฟดเพียงแต่ย้ำว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงสิ้นปี 2557 และจะ ยังคงดำเนินโครงการขยายกำหนดเวลาการไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่เฟดถือครองอยู่ออกไป ตามที่ได้ประกาศไว้ในเดือนก.ย. 2554
นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นยังสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาทองคำอีกด้วย โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน และแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ
ส่วนสัญญาพลาตินัม แม้ว่าร่วงลงเมื่อคืนนี้ แต่ก็ยังมีมูลค่าสูงกว่าราคาทองคำในเวลานี้ ซึ่งตรงข้ามกับทิศทางในช่วงกลางปี 2554 ที่ราคาทองคำมีมูลค่าสูงกว่าพลาตินัม