รมว.พณ.เผยไม่มีปัจจัยชี้นำราคาสินค้าแพงขึ้น หนำซ้ำหลายชนิดราคาถูกลง

นายบุญทรง เตริยาภิรมยื รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่าจากการติดตามราคาสินค้า จากการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตลาดสดหลายแห่งในช่วงวันที่ 13 มีนาคมพบว่าราคาสินค้าหลายชนิดถูกกว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงยังไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลทำให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้

อย่างเช่นกรณีราคาสุกรเนื้อแดง ช่วงมกราคมอยู่ที่ 120-125 บาท/กก. แต่ ณ วันที่ 13 มีนาคมราคาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 95-100 บาท/กก., ไก่สดชำแหละ จากราคาเดือนมกราคมอยู่ที่ 65-66 บาท/กก. แต่ 13 มีนาคมลงมาอยู่ที่ 52-55 บาท/กก. ผักบุ้งจากราคากก.ละ 22-25 บาท/กก. ก็ลดลงมาอยู่ที่กก.ละ 10-12 บาท

ทั้งนี้ ราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อราคาต้นทุนการผลิตมากนัก ซึ่งในส่วนของต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิต มีผลกระทบต่อราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 0.62 ส่วนต้นทุนในภาคขนส่งเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.44 เท่านั้น

ส่วนราคาน้ำมันปาล์ม กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม และกระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันให้ขายปลีกที่ราคาขวดลิตรละ 42 บาท และยังยืนยันว่ามีปริมาณเพียงพอ ไม่ขาดแคลน ซึ่งขณะนี้มีสต็อกอยู่ที่ 2.1 แสนตัน เพียงพอสำหรับใช้ผลิตน้ำมันปาล์มได้ 2-3 เดือน และยังไม่มีเหตุบ่งชี้ใดที่จะทำให้เกิดความขาดแคลนน้ำมันปาล์มในขณะนี้

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ได้มีการประเมิน ว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปี 55 ยังได้รับผลกระทบจากไตรมาส 4/54 จากปัญหาอุทกภัย

ขณะที่อัตรากำลังการผลิตในส่วนของภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือนแรกอยู่ 5.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ 6.2% ถือว่ายังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทางสภาพัฒน์ฯคาดการณ์ว่าภาคการผลิตจะกลับมาผลิตได้ 100% ในช่วงปลายไตรมาส 2/55 หรือราวๆ เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในช่วงปลายไตรมาส 2/55 ถึงไตรมาส 3/55 ซึ่งจะทำให้แรงกดดันเรื่องราคาสินค้าเพราะผลิตไม่ทันลดน้อยลงไป

นอกเหนือจากนี้ราคาสินค้าอาจจะได้รับผลกระทบบ้างจากฤดูการผลิต เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนสินค้าบางชนิดอาจจะออกผลผลิตน้อย