นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตามที่เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในหลายจังหวัดในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ธปท. ได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งหารือร่วมกับผู้แทนธนาคารพาณิชย์ไทย สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินธุรกรรมทางการเงินเป็นไปโดยปกติ สาธารณชนมั่นใจว่าระบบการเงินสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขอความร่วมมือสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ประสบภัยและรายงานข้อมูลให้ทราบเป็นประจำ
ข้อมูลการให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินกับลูกค้า ณ สิ้นเดือนมกราคม 2555 มีสถาบันการเงิน 41 แห่งได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รวม 626,250 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.23 ของยอดสินเชื่อรวมทั้งระบบ (ไม่รวม Interbank) แยกเป็นลูกหนี้ภาคธุรกิจจำนวน20,256 ราย และลูกหนี้รายย่อยรวม 903,889 บัญชี
เมื่อพิจารณาตามประเภทสินเชื่อพบว่า ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อภาคธุรกิจจำนวน 461,202 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 7.47 ของสินเชื่อภาคธุรกิจรวม ที่เหลือเป็นสินเชื่ออุปโภคบริโภคประมาณ 165,048 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 เป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่ลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิตที่เข้ามาขอรับความช่วยเหลือมีจำนวน 13,840 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.56 ของสินเชื่ออุปโภคบริโภคทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ ธปท. ได้มีมาตรการผ่อนปรนในการชำระหนี้ขั้นต่ำ (ต่ำกว่าร้อยละ 10) ไปแล้ว
และนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 มีผู้ประสบภัยที่ร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. จำนวน 199 ราย และสามารถยุติปัญหาได้ 167 ราย คิดเป็นร้อยละ 84 ส่วนรายที่เหลือนั้นสถาบันการเงินยังไม่ได้ชี้แจงกลับมายัง ธปท. ทั้งนี้เกือบทั้งหมดติดต่อเพื่อให้ ธปท. ประสานงานกับสถาบันการเงินเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่ง ธปท. ได้ดำเนินการโดยประสานงานตรงไปยังสถาบันการเงินและ Non-bank เป็นรายกรณี เพื่อให้กระบวนการติดตามแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ผู้ประสบอุทกภัยลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินด้วยดี