ราคาสัญญาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอทั้งในยูโรโซนและจีน
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ที่มีการซื้อขายในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ร่วงลง 1% มาอยู่ที่ระดับ 1,633.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 7.49 น.ในนิวยอร์ก ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันทีปรับตัวลง 1% แตะ 1,634.73 ดอลลาร์/ออนซ์
วันนี้ เอชเอสบีซีได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมี.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดัชนีหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดย PMI เดือนมี.ค.ร่วงลงแตะ 48.1 จากระดับ 49.6 ในเดือนก.พ. ซี่งตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัว และได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด ซึ่งรวมถึงยอดขาดดุลการค้า
ขณะที่มาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.7 จุดในเดือนมี.ค. จากระดับ 49 จุดในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 49.5 จุด ซึ่งข้อมูลล่าสุดนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงนั้น เป็นผลมาจากผลผลิตภาคโรงงานของประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรปอย่างเยอรมนีและฝรั่งเศสที่หดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมาย โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี ร่วงลงแตะ 48.1 จากระดับ 50.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในปีนี้ ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของฝรั่งเศสร่วงลงสู่ระดับ 47.6 ในเดือนมีนาคม จาก 50.0 ในเดือนกุมภาพันธ์
ด้านสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งรวมถึงยูโรและเยน โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.3% แตะ 79.934 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำจะเคลื่อนตัวสวนทางกับดอลลาร์