รัฐมนตรีคลังยูโรโซน ซึ่งอยู่ในระหว่างประชุมร่วมกันที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เห็นชอบให้มีการเพิ่มขนาดของกองทุนช่วยเหลือภูมิภาคจาก 5 แสนล้านยูโร เป็น 8 แสนล้านยูโร (1.1 ล้านล้านดอลลาร์) มุ่งใช้เป็นกองทุนถาวรเพื่อช่วยประเทศในยูโรโซนที่ประสบปัญหา ระบุยูโรโซนต้องการมาตรการที่รวดเร็วและเด็ดขาดเพื่อเสถียรภาพและความเป็นเอกภาพของสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน
รายงานระบุว่า วงเงินใหม่ที่ 8 แสนล้านยูโรนั้นจะประกอบไปด้วยเงินจำนวน 5 แสนล้านยูโรในกองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวร และอีกส่วนหนึ่งคือเงินกู้ที่ได้มีการอนุมัติให้กับกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส แล้วประมาณ 3 แสนล้านยูโรภายใต้กองทุน EFSF ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราว
ที่ผ่านมา นักลงทุนมีความกังวลต่อความสามารถในการปล่อยกู้ของกองทุนช่วยเหลือในภูมิภาค โดยมองว่าจำเป็นต้องมีการขยายวงเงิน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของสเปนและอิตาลียังมีความเสี่ยง
รัฐมนตรีคลังยูโรโซนกล่าวถึงการประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือภูมิภาคที่แข็งแกร่ง พร้อมระบุว่าได้มีการกำหนดกลยุทธ์ที่ครอบคลุมซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงเงื่อนไขในตลาดให้ดีขึ้น
ในความเป็นจริง สิ่งที่ยูโรโซนกำลังทำอยู่คือการเดินหน้ากำหนดเวลาให้กองทุนช่วยเหลือถาวรมีผลบังคับใช้ก่อนกำหนด
ทั้งนี้ ยูโรโซนได้ใช้กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในการช่วยเหลือไอร์แลนด์ และโปรตุเกส รวมถึงการหาเงินช่วยเหลือก้อนที่สองให้กับกรีซด้วยส่วนหนึ่ง ขณะที่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพการเงิน (ESM) นั้นเดิมถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นกองทุนถาวรแทนกองทุน EFSF แต่กองทุนทั้งสองจะมีบทบาทซ้ำซ้อนกันตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป และยูโรโซนจะเหลือเงินที่สามารถปล่อยกู้ได้เพียง 2 แสนล้านยูโรตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ ซึ่งจะนำไปใช้สำหรับความช่วยเหลือใหม่ๆ ได้เฉพาะในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น