กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 388,000 ราย ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้เริ่มอ่อนแรง
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากระดับ 389,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 386,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 375,000 ราย
นอกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จะลดลงน้อยกว่าที่คาดแล้ว จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ยังเพิ่มขึ้น 6,250 ราย มาอยู่ที่ 381,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 7 ม.ค. โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 3,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย.สู่ระดับ 3.315 ล้านราย
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ โดยนอกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยเกินคาดหรือเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ตัวเลขจ้างงานใหม่ยังเริ่มชะลอตัวลงด้วย
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 120,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.ถึงครึ่งหนึ่ง
ก่อนหน้านั้นในช่วงปลายเดือนมี.ค. นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวเตือนว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ โดยเขาระบุว่า "เรายังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า การปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานจะยั่งยืน"