เกษตรกรสหรัฐเล็งเพิ่มการเพาะปลูกข้าวเมล็ดสั้นสำหรับญี่ปุ่น

ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า เกษตรกรสหรัฐวางแผนที่จะเพิ่มพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกข้าวเมล็ดสั้นที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่นในปีนี้ ท่ามกลางความวิตกในญี่ปุ่นเกี่ยวกับอุปทานภายในประเทศหลังเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ รวมทั้งวิกฤตินิวเคลียในปีที่แล้ว

รายงานของกระทรวงแกษตรสหรัฐเปิดเผยว่า เกษตรกรคาดว่าจะปลูกข้าวเมล็ดสั้นดังกล่าวจำนวน 51,000 เอเคอร์ ณ วันที่ 31 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

การเพิ่มขึ้นดังกล่าวบ่งชี้ว่าเกษตรกรสหรรัฐมีวัตถุประสงค์ในการสนองตอบต่อการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มเทรดเดอร์ญี่ปุ่นในการแสวงหาข้าว ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของราคาในญี่ปุ่น หลังเหตุภัยพิบัติในเดือนมี.ค.2554 ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและทำให้พื้นที่เกษตรมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี

นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังบ่งชี้ว่าเกษตรกรสหรัฐอาจจะยังคงเพิ่มการผลิตข้าวเมล็ดสั้นต่อไป ขณะที่คาดว่าญี่ปุ่นจะเข้าร่วมในการเจรจาพหุภาคีที่นำโดยสหรัฐว่าด้วยข้อตกลงการค้าเสรีของกลุ่มหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)

คาดว่าการส่งออกข้าวของสหรัฐไปยังญี่ปุ่นจะพุ่งขึ้น หากญี่ปุ่นเข้าร่วม TPP และลดภาษีนำเข้าข้าวที่ 778% ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความวิตกภายในประเทศเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มผู้เพาะปลูกข้าวภายในประเทศ

ในสหรัฐ ส่วนใหญ่มีการปลูกข้าวเมล็ดสั้นในแคลิฟอร์เนียและคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของพื้นที่เพาะปลูกในรัฐดังกล่าว

สำหรับการผลิตข้าวทั้งหมดของสหรัฐในปี 2553 นั้น ประกอบด้วยข้าวเมล็ดยาว 8.31 ล้านตันและเมล็ดกลาง 2.59 ล้านตัน ส่วนข้าวเมล็ดสั้น ซึ่งเป็นข้าวที่เพาะปลูกยากกว่า มีจำนวนเพียง 120,000 ตันเท่านั้น

หากมีการเพาะปลูกข้าวเมล็ดสั้นตามแผน คาดว่าการผลิตข้าวดังกล่าวจะเพิ่มมาอยู่ที่ราว 140,000 ตันในปีนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน