สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,654 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1654.0 - 1652.0 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 28.5 เซนต์ ปิดที่ 30.645 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 5.45 เซนต์ ปิดที่ 3.7855 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 7.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,564.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 11.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 669.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่งปรับตัวลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 10.9% ในเดือนมี.ค. จาก 10.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีนับแต่เริ่มใช้เงินยูโรในปี 2542
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 79.12 จุดเมื่อคืนนี้ จากระดับของวันอังคารที่ 78.82 จุด