กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 8.2%
ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 120,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น
การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดในวันนี้ อาจยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ปกคลุมตลาดอยู่แล้วในเวลานี้ หลังจากที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เพิ่งเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ ADP รวบรวมเฉพาะการจ้างงานในภาคเอกชน ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐครอบคลุมการจ้างงานภาครัฐด้วย
การจ้างงานที่ชะลอตัวลงอาจเป็นภาพสะท้อนว่ามุมมองเชิงบวกของภาคเอกชนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง และอาจส่งผลไปถึงการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐ
กระทรวงแรงงานระบุในรายงานวันนี้ว่า การจ้างงานในภาคเอกชน ซึ่งไม่รวมหน่วยงานรัฐ เพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
การจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 16,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วนธุรกิจก่อสร้างลดการจ้างงานลง 2,000 ตำแหน่ง
ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่ขับเคลื่อนการจ้างงานในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 116,000 ตำแหน่ง โดยธุรกิจค้าปลีกจ้างงานเพิ่ม 29,300 ตำแหน่ง
ส่วนการจ้างงานภาครัฐลดลง 15,000 ตำแหน่ง