การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี-8 จะจัดขึ้นที่แคมป์เดวิด รัฐแมรีแลนด์ ในสหรัฐตั้งแต่วันนี้ถึงวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม การที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียไม่เข้าร่วมประชุม ประกอบกับสัมพันธภาพที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีและนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ทำให้บรรดานักวิเคราะห์กล่าวกันว่า การประชุมสุดยอดจี-8 ในครั้งนี้มีขนาดและประสิทธิภาพที่ลดน้อยลง ทั้งยังคาดว่าจะไม่มีผลลัพธ์ที่สำคัญจากการประชุมนี้
จี-8 ลดขนาดสู่จี-7
ประการแรก การประชุมสุดยอดครั้งนี้ลดขนาดลงแม้จะต้องหารือกันในประเด็นที่หลากหลายอย่าง วิกฤตยูโรโซน ปัญหานิวเคลียร์ในอิหร่าน ซีเรีย รวมถึงความมั่นคงทางอาหารและพลังงานทั่วโลก
หลังจากนายปูตินประกาศไม่เข้าร่วมการประชุม การประชุมก็ได้ลดขนาดลงจากจี-8 สู่จี-7 เท่านั้น
ทั้งนี้ เดิมการประชุมสุดยอดจี-8 และนาโต้มีแผนการจะจัดต่อเนื่องกันในกรุงชิคาโก แต่ทางทำเนียบขาวตัดสินใจภายหลังให้จัดการประชุมทั้งสองแยกกัน โดยย้ายการประชุมจี-8 ไปที่แคมป์เดวิด รัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดีสหรัฐใกล้กรุงวอชิงตัน นักวิเคราะห์ชี้ว่า การตัดสินใจดังกล่าวนั้นมีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกอึดอัดใจที่อาจเกิดขึ้นเมื่อปธน.ปูตินจำเป็นต้องเดินทางกลับ โดยที่ผู้นำอื่นๆยังคงรอประชุมสุดยอดนาโต้ต่อไป
อย่างไรก็ดี ท่าทีใส่ใจของสหรัฐก็ยังไม่สามารถจูงใจผู้นำรัสเซีย ซึ่งมักจะมีท่าทีแข็งกร้าวกับชาติตะวันตก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ปูตินได้โทรศัพท์แจ้งให้ปธน.โอบามาทราบว่า เขาไม่อาจร่วมการประชุมได้ เนื่องจากต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จ
เห็นได้ชัดว่าสหรัฐรู้สึกลำบากใจ ซึ่งอาจโกรธเคืองด้วยซ้ำ แม้จะมีการยืนยันว่าการไม่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ไม่ใช่การ “หยามศักดิ์ศรี" แต่อย่างใด ซึ่งเพียงไม่กี่วันให้หลัง คณะบริหารก็ออกมาประกาศว่า ปธน.โอบามาไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มเอเปคที่จัดโดยรัสเซียในเดือนก.ย.ได้ โดยอ้างตารางงานที่ซ้อนกันกับการหาเสียงของประธานาธิบดี ซึ่งผู้สังเกตการณ์หลายคนตีความการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ประสิทธิภาพที่ลดลง
ประการที่สอง ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า นั่นคือ การประชุมสุดยอดจี-8 ลดบทบาทและประสิทธิภาพลง
ทำเนียบขาวได้เน้นว่า การประชุมสุดยอดที่จะจัดขึ้นที่แคมป์ เดวิดนั้นมีเป้าหมายเพื่อเดินตามวาระ “การกลับสู่พื้นฐาน" ของกลุ่ม จี-8 หรืออีกนัยหนึ่ง วาระดังกล่าวตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้นำต่างๆได้ถกปัญหาหลักในบรรยากาศที่เป็นกันเอง และสามารถปฏิบัติจริง
และด้วยเหตุนี้ องค์กรสื่อต่างๆจึงถูกปฏิเสธการเข้าร่วมงานที่แคมป์ เดวิด ซึ่งมีข้อยกเว้นเพียงบางกรณีที่เป็นสื่อจากประเทศสมาชิกจี-8 เองเท่านั้น
แต่คำอธิบายดังกล่าวดูเหมือนจะเกินเลยไป ในขณะที่การประชุมสุดยอดนาโต้ซึ่งคาดหวังผลที่เป็นรูปธรรม กลายเป็นจุดเด่นทั้งหมด นักวิเคราะห์สงสัยว่า การประชุมจี-8 ที่ขาดผลที่ชัดเจนอาจเป็นคำตอบว่าเหตุใดการประชุมสุดยอดจี-8 จึงแทบไม่มีบทบาท
แท้จริงแล้ว การประชุมจี-8 โดยปราศจากปธน.ปูติน จะทำให้การแก้ปัญหาอิหร่านและซีเรีย ซึ่งรัสเซียมีบทบาทอย่างมาก ไม่อาจคืบหน้าได้เลย ทำเนียบเครมลินเปิดเผยวานนี้ว่า รัสเซียจะไม่รวมประเด็นซีเรียและอิหร่านไว้ในประกาศของการประชุมสุดยอดจี-8 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งแทบจะถือเป็นการปิดประตูสำหรับความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าว
การประชุมนี้ยังแทบจะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้แก่วิกฤตยูโรโซน ซึ่งปธน.ออลลองด์ของฝรั่งเศสเห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นางแมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีให้ความสำคัญกับมาตรการรัดเข็มขัด
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.โอบามา ซึ่งสนใจนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ (pro-growth) มากกว่า จะทำการหารืออย่างไม่เปิดเผยระหว่างการประชุมสุดยอด เพื่อผลักดันให้ผู้นำยุโรปมีความเห็นเป็นเอกฉันท์และก่อให้เกิดการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายอย่างมากที่ผู้นำชาติต่างๆกำลังเผชิญอยู่ ประกอบกับความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการออกจากยูโรโซนของกรีซ ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดหวังให้ผู้นำชาติยุโรปเลือกระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและวินัยทางการคลังในการประชุมที่แคมป์เดวิด
“ผมไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ที่สำคัญ" บรูซ โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันบรูคกิงส์ กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
“นั่นไม่ใช่สถานที่สำหรับเรื่องนั้น ผมคิดว่าสถานที่สำหรับเรื่องนั้นอยู่ในยุโรปเอง" เขากล่าว
จี-8 ถูกมองข้าม?
ภายใต้ภาวะทั่วโลกในปัจจุบัน กลุ่มจี-8 ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่สามารถจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญได้ โดยการประชุมสุดยอด ซึ่งจัดขึ้นที่ฝรั่งเศสเมื่อปีที่แล้ว ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็น “ฝันร้าย" และ “ไร้สาระ" นักวิเคราะห์กล่าวว่า สหรัฐเองยังเกือบถึงจุดที่จะออกจากจี-8 มาแล้วเมื่อประมาณหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ประเทศมหาอำนาจเกิดใหม่อย่าง จีน อินเดีย บราซิล และประเทศอื่นๆ เริ่มมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในเวทีสากล ตัวอย่างเช่น การประชุมครั้งสำคัญเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนจากกลุ่มจี-8 ไปเป็นกลุ่มจี-20 เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
โจนส์เรียกจี-8 ว่าเป็นกลุ่มที่ “ล้าสมัย" หรือแม้แต่ “แปลกประหลาด" โดยเขากล่าวว่า “เป็นการยากสำหรับจี-8 ที่จะเข้าใจว่า กลุ่มของตนจะมีประโยชน์ใดในปีต่อๆไป"
บทวิเคราะห์โดย รัน เหวย จากสำนักข่าวซินหัว