ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลงเพราะเงื่อนไขสำหรับการออกและใช้บัตรเข้มงวดมากขึ้น
ข้อมูลจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดสินเชื่อภาคครัวเรือนที่โดดเด่น ได้แก่ เงินกู้จากธนาคารและสถาบันเงินฝากที่ไม่ใช่ธนาคาร รวมไปถึงการชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิต แตะที่ 911.4 ล้านล้านวอน (7.75 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐ) เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลดลง 0.5 ล้านล้านวอนจากช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้
สินเชื่อภาคครัวเรือนเกาหลีใต้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ขยายตัวสูงกว่าสถิติ 800 ล้านล้านวอนเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่สองของปี 2553 แล้วพุ่งสูงขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ 900 ล้านล้านวอนเป็นครั้งแรกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงการเติบโตในเชิงลบในไตรมาสแรก เนื่องจากยอดสินเชื่อที่หดตัวลง 3.8 ล้านล้านวอนในไตรมาสนี้สอดคล้องกับไตรมาสแรกของปี 2552
สินเชื่อภาคครัวเรือนที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ลดลง ยอดการซื้อด้วยสินเชื่ออันประกอบด้วยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และการซื้อสินค้าเงินผ่อน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 53.6 ล้านล้านวอนเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม ต่ำกว่าช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ 1.2 ล้านล้านวอน ทั้งนี้ เงื่อนไขการใช้บัตรและการประกันบัตรที่เข้มงวดมากขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตชำระสินค้าและบริการต่าง ๆ น้อยลง
ธนาคารต่าง ๆ ปล่อยสินเชื่อภาคครัวเรือนลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น แต่สินเชื่อภาคครัวเรือนที่อนุมัติโดยสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารกลับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสินเชื่อในภาคครัวเรือนที่หันไปพึ่งสถาบันการเงินเหล่านี้ที่ปล่อยกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงกว่า สำนักข่าวซินหัวรายงาน