ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดบวก หลังสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดีดขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังเปิดตลาดได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 44.20 จุด หรือ 0.35% ที่ระดับ 12,578.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 5.56 จุด หรือ 0.42% ที่ 1,325.55 จุด และดัชนี Nasdaq บวกขึ้น 11.70 จุด หรือ 0.41% แตะ 2,865.76 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัวมากเกินคาดที่ 1.1% ในเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ในภาคขนส่งที่ขยายตัว 2.7% เพราะยอดจองเครื่องบินและยอดสั่งซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณว่ากิจกรรมของภาคธุรกิจในสหรัฐดีขึ้น

ขณะเดียวกันสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค.ในคืนนี้ ตามเวลาไทย ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตาดูการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนไม่คาดหวังในผลการประชุมมากนัก เพราะนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่เห็นด้วยกับการออกยูโรบอนด์

อีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนทวีความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยูโรโซนคือ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีพุ่งสูง โดยอิตาลีระดมทุนจากการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนได้ 9 พันล้านยูโร โดยมีอัตราผลตอบแทนพุ่งแตะ 2.957% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ปลายปี 2554 เมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 2.104%