กระทรวงเศรษฐกิจความรู้ของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) สูงเป็นประวัติการณ์ในครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดเม็ดเงิน FDI จากญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้น
รายงานของกระทรวงระบุว่า เกาหลีใต้ได้รับเม็ดเงิน FDI ทั้งสิ้น 7.11 แสนล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 32.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเป็นตัวเลขสุดเป็นประวัติการณ์ของยอดเม็ดเงิน FDI ในครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุว่า เม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าอย่างแท้จริงแตะที่ 4.45 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 53.7% จากปีก่อน
เม็ดเงิน FDI จากญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นมีส่วนผลักดันให้ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรก โดย FDI จากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า แตะที่ 2.64 พันล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน เนื่องจากบริษัทหุ้นส่วนผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบขนาดใหญ่ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ขยายการลงทุนในกรุงโซล ท่ามกลางการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินสกุลเยน
ในขณะเดียวกัน เม็ดเงิน FDI จากสหรัฐเพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะที่ 1.26 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่เม็ดเงิน FDI จากสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 31.6% มาอยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้สินในภูมิภาค ส่วนเม็ดเงิน FDI จากจีนลดลง 17.8% แตะที่ 187 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
ในการแบ่งประเภทตามอุตสาหกรรม เม็ดเงิน FDI ของภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 55.9% ต่อปี แตะที่ 3.48 พันล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากญี่ปุ่น ในขณะที่เม็ดเงิน FDI ในภาคบริการเพิ่มขึ้น 34.8% แตะที่ 3.57 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
กระทรวงฯเตือนว่า วิกฤตที่ยืดเยื้อในยุโรปและอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนว่า เม็ดเงิน FDI ของเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็ระบุว่า ยังคงมีปัจจัยบวกอีกหลายอย่าง เช่น การเร่งขยายการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่น และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน