นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ตในวันนี้ว่า การที่อีซีบีตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมวันนี้ เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ตามปกติ
นายดรากิกล่าวว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจในยูโรโซนเผชิญกับภาวะขาลงนั้น เริ่มปรากฎชัดขึ้น ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงมีทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายของอีซีบีที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็อยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงอ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาวะการลงทุนในตลาด
นอกจากนี้ นายดรากิยังกล่าวด้วยว่า อีซีบีได้บังคับใช้มาตรการด้านนโยบายการเงินทั้งที่เป็นมาตรฐานและไม่เป็นมาตรฐาน ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ได้ช่วยสนับสนุนการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของอีซีบีได้เป็นอย่างดี
แถลงการณ์ของนายดรากิระบุว่า จากการที่อีซีบีประเมินภาวะเศรษฐกิจในเชิงลึกพบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงของยูโรโซน ทรงตัวในไตรมาสแรของปี 2555 หลังจากที่หดตัวลง 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ 2 ด้านในไตรมาส 2 ของปีนี้ก็บ่งชี้ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอ่อนแอและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจก็เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ อีซีบีคาดว่า ในระยะสั้นนั้น เศรษฐกิจยูโรโซจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น แม้แนวโน้มการฟื้นตัวจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความตึงเครียดในตลาดตราสารหนี้ของบางประเทศและผลกระทบที่มีต่อภาวะสินเชื่อ ส่วนกระบวนการปรับงบดุลในภาคการเงินและนอกภาคการเงิน และอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน
นอกจากนี้ นายดรากิยังกล่าวด้วยว่า ความเสี่ยงที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเผชิญกับภาวะขาลงนั้น ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดในตลาดการเงินหลายแห่งของยูโรโซน และมีความเป็นไปได้ว่าจะลุกลามเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงของภูมิภาค นอกจากนี้ ความเสี่ยงขาลงของยูโรโซนอาจจะเกิดขึ้นจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานในระยะกลางนี้ด้วย