กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 3.8% สู่ระดับ 4.868 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ราว 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์
เหตุผลที่ทำให้ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.หดตัวลงคือ การที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 0.7% เพราะราคาน้ำมันถูกลง เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยทำให้อุปสงค์น้ำมันซบเซา โดยต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงจาก 2.968 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 2.938 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ยอดขาดดุลการค้ากับจีนยังขยายตัว 6.1% แตะ 2.604 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จาก 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. เนื่องจากสหรัฐนำเข้าสินค้าและบริการจากจีนมากกว่าส่งออกไปยังจีน แม้ว่าการส่งออกไปยังจีนจะขยายตัวถึง 5.2% ก็ตาม
ขณะเดียวกันยอดขาดดุลการค้ากับยูโรโซนก็เพิ่มขึ้นแตะ 8.55 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จาก 7.56 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีการนำเข้าจากยูโรโซนจำนวนมาก แม้ว่ายอดส่งออกไปยังยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น 4.2% ก็ตาม
สำหรับเดือนเม.ย.นั้น ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐถูกปรับทบทวนเพิ่มเป็น 5.06 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยรายงานว่าอยู่ที่ระดับ 5.006 หมื่นล้านดอลลาร์