สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.78% แตะที่ 1.2153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2059 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนลง 0.05% แตะที่ 1.5498 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5505 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.170 เยน แต่ร่วงลง 0.76% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9880 ฟรังค์ จากระดับ 0.9956 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.91% แตะที่ 1.0313 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0220 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.56% แตะที่ระดับ 0.7885 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7841 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากนายเอวัลด์ โนวอตนี สมาชิกสภาบริหารของอีซีบีกล่าวว่า กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซน อาจสามารถขยายวงเงินปล่อยกู้ได้ หากกองทุน ESM ได้ใบอนุญาตทำธุรกิจธนาคาร ซึ่งจะทำให้ ESM สามารถเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรปได้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายโนวอตนีทำให้ตลาดมีความหวังมากขึ้นเรื่องการจัดการกับวิกฤตหนี้ยุโรป เนื่องจากตลาดกังวลอยู่ว่าวงเงินปัจจุบันของกองทุน ESM มีขนาดใหญ่ไม่มากพอที่จะช่วยเหลือสเปนและอิตาลีได้
สกุลเงินปอนด์อ่อนแรงลงหลังจากอังกฤษเผยตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2555 หดตัวลง 0.7% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบรายไตรมาสนับแต่ไตรมาสแรกปี 2552 และหากเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 จีดีพีร่วงลง 0.8%
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะหนุนให้เฟดตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 8.4% จากเดือนพ.ค. ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี สู่ระดับ 350,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยสำนักงาน GfK จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเดือนส.ค. และอิตาลีจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ส่วนในฝั่งสหรัฐนั้น ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ จะเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย.