กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. ลดลง 35,000 ราย มาอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 353,000 ราย โดยถึงแม้ว่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่ถึงกระนั้นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการที่ลดลงเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ก็ช่วยจุดประกายความหวังว่าตลาดแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากระดับ 388,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 386,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 380,000 ราย
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ก็ลดลงมากถึง 8,750 ราย มาอยู่ที่ 367,250 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
นักเศรษฐศาสตร์ของกระทรวงแรงงานระบุว่า ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเดือนก.ค.มีความผันผวน อันเนื่องมาจากปัจจัยตามฤดูกาล โดยในเดือนนี้ของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐหยุดดำเนินงานประจำปี ซึ่งอาจส่งผลให้แรงงานส่วนหนึ่งตกงานในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ที่ลดลงสะท้อนว่าตลาดแรงงานกำลังปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย.เป็นต้นมา
ขณะเดียวกันการจ้างงานใหม่ยังส่งสัญญาณชะลอตัวด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 80,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับสูง 8.2%
กระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานประจำเดือนก.ค.ในสัปดาห์หน้า