นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติงบกลางรายจ่ายเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 24 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลการขาดทุนจากการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ โดยจะเบิกจ่ายตามผลการขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง โดยแบ่งเป็น เงินชดเชยผลการขาดทุนขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ในการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธ์จำนวน 1 หมื่นตัน ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 8 ล้านบาท และจะมีการนำเข้าในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม
ส่วนที่สอง เป็นเงินชดเชยผลการขาดทุนของ อคส.ที่อาจจะต้องนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบบริสุทธ์อีกจำนวน 2 หมื่นตัน เป็นจำนวนเงิน 16 ล้านบาท โดยจะเบิกตามผลการขาดทุนที่นำเข้าจริง หากราคาที่นำเข้าสูงกว่าที่ประมาณการเอาไว้
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้กำหนดระดับสต็อกน้ำมันปาล์ม เป็น 3 ระดับ คือ ระดับปลอดภัยที่ 2 แสนตัน ระดับเตือนภัยที่ 1.68 แสนตัน และระดับวิกฤติที่ 1.35 แสนตัน แต่เนื่องจากการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อยู่ที่ 158,633 ตัน และคาดว่าเดือนกรกฎาคม จะมีสต็อกน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 126,353 ตัน และเดือนสิงหาคม จะมีอยู่ประมาณ 115,907 ตัน
และจากการตรวจสอบน้ำมันปาล์มเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าปริมาณน้ำมันปาล์มคงเหลือทุกชนิดทั้งหมด ซึ่งคำนวณในรูปแบบน้ำมันปาล์มดิบมีปริมาณ 131,825 ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับวิกฤติ