สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย (CII) เปิดเผยในรายงานฉบับล่าสุดว่า ปริมาณน้ำฝนที่น้อยเกินไปในช่วงมรสุมอาจส่งผลกระทบให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคของอินเดียย่ำแย่ลง และสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น
นายจันทราจิต บาเนอร์จี ผู้อำนวยการสมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย ระบุในรายงานว่า สถานการณ์ดังกล่าวไม่เพียงส่งผลต่อกิจกรรมในภาคการเกษตรเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ผ่านรายได้ในชนบทด้วย
อินเดียกำลังประสบปัญหาราคาอาหารแพงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ โดยสถานการณ์ดังกล่าวย่ำแย่ลงเนื่องจากฝนตกต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยที่ 23%
ภาวะฝนแล้งทำให้อินเดียเก็บเกี่ยวผลผลิตลดลงสู่ระดับ 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสะท้อนสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2552 เมื่ออินเดียต้องประสบภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี
ทั้งนี้ CII แนะนำให้มีการออกมาตรการเร่งด่วนในระยะกลางและระยะยาวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยแนะว่า แทนที่จะพึ่งพาฤดูมรสุมเพียงอย่างเดียว อินเดียควรปฏิรูปการเกษตรกรรม ไปพร้อมๆกับการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การชลประทานแบบน้ำหยด ส่งเสริมการกักเก็บน้ำฝน และพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชที่ทนความแห้งแล้ง
รายงานยังระบุด้วยว่า ควรมีการปฏิรูปกลไกการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องสามารถตั้งรับภาวะขาดแคลนน้ำฝนได้ทันเวลา สำนักข่าวซินหัวรายงาน