นายเสิ่น ตันหยางโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า บริษัทจีนเร่งเดินหน้ากิจกรรมการลงทุนในต่างประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
นายเสิ่นกล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า มูลค่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) นอกภาคการเงิน พุ่งขึ้น 52.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 4.222 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราเร็วขึ้นจากมูลค่า ODI ที่เพิ่มขึ้น 48.2% ในช่วงครึ่งปีแรก
นายเสิ่นระบุว่า สำหรับ ODI มูลค่า 4.222 หมื่นล้านดอลลาร์ดังกล่าว ได้กระจายไปสู่องค์กรต่างประเทศ 2,407 แห่ง ใน 117 ประเทศและเขตการปกครองในช่วง 7 เดือนแรก
รายงานระบุว่า จีนลงทุนในฮ่องกง ประเทศในกลุ่มอาเซียน และสหรัฐเพิ่มขึ้น 67.7%, 36% และ 29.6% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันจีนลงทุนในสหภาพยุโรป (อียู) เป็นเงิน 1.03 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 7 เดือนแรก เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลงทุนในรัสเซียขยับขึ้นเพียง 0.2% สู่ระดับ 204 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม มูลค่า ODI ของจีนในออสเตรเลียและญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก 43% และ 25.7% ตามลำดับ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ณ สิ้นเดือนก.ค. จีนมีมูลค่าการลงทุนในต่างประเทศนอกภาคธนาคารรวมทั้งสิ้น 3.643 แสนล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จีนมีรายได้จากโครงการซึ่งทำสัญญาในต่างประเทศอยู่ที่ 5.883 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค. เพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน