บสก. ตั้งเป้าขาย NPA กว่า 4 พันรายการในงาน NPA Grand Sale 300 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 23, 2012 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคม 2555 บสก. ได้นำทรัพย์สินรอการขายประเภท “บ้านพร้อมอยู่ ที่ดินพร้อมใช้" ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดราคาพิเศษ 20-30% ประกอบด้วย ที่ดินเปล่า ที่ดินจัดสรร บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุดพักอาศัย และอาคารสำนักงาน จำนวน 4,882 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 13,035 ล้านบาท ไปจำหน่ายในงาน NPA Grand Sale 2012 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยงานนี้ บสก. ตั้งเป้ายอดขายทรัพย์ จำนวน 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ บสก. ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษมอบให้กับลูกค้าภายในงานออกบูธ อาทิ ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในราคาอนุมัติขายไม่เกิน 5 ล้านบาท รับฟรีค่าธรรมเนียมการโอนฯ และลูกค้าที่ซื้อทรัพย์เกินกว่า 5 ล้านบาท รับฟรีโทรศัพท์ iPhone 4s (16 GB) หรือ ipad (16 GB) นอกจากนี้ลูกค้าที่ซื้อสินทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยกับ บสก. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เสนอสินเชื่อที่อยู่อาศัย คิดอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 เดือน และสินเชื่อจากธนาคารออมสิน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.45% ต่อปี 36 เดือน

ในส่วนของทรัพย์เด่นที่น่าสนใจนำออกจำหน่ายในงานนี้ อาทิ ห้องชุดพักอาศัย บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ ที่ดินเปล่า โครงการสนามกอล์ฟ เป็นต้น

นายสุเมธ กล่าวถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามในเรื่องของความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นฟูจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคาดว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาปรับตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาของน้ำท่วมเกิดขึ้นตามมา ทั้งนี้คาดการณ์ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลใน ปี 2555 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 84,500-87,500 หน่วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 85,800 หน่วย

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการได้หันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมกันเป็นจำนวนมาก โดยคอนโดมิเนียมที่ขายดีจะมีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ในขณะที่คู่แข่งขันในตลาดมีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มมีความเสี่ยงที่สูงกว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มที่จะหันมาพัฒนาตลาดแนวราบกันมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง อีกทั้งการพัฒนาบ้านแนวราบจะช่วยผลักดันยอดขายได้ดีกว่าคอนโดมิเนียม เพราะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างที่น้อยกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ