ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินเป็นมูลค่าสูงสุดในสัปดาห์นี้ผ่านการดำเนินงานในตลาดรองวานนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งวันภายหลังนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการ PBOC เปิดเผยว่าเขาไม่ปฏิเสธการใช้เครื่องมือนโยบายทางการเงินใดๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
PBOC ดำเนินการซื้อคืนพันธบัตรมูลค่า 1.45 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องสู่ธนาคารพาณิชย์เป็นมูลค่า 2.78 แสนล้านหยวนในสัปดาห์นี้
เมื่อวันอังคาร PBOC ดำเนินการซื้อพันธบัตรโดยวิธีนี้เป็นมูลค่า 2.2 แสนล้านหยวน
--ธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่า ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของธนาคารรายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศวานนี้ว่า ผลกำไรสุทธิของทางธนาคารเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก
แถลงการณ์ในเว็บไซต์ของแบงก์ ออฟ ไชน่า ระบุว่าผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากโครงสร้างรายได้ที่เหมาะสม สินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีขึ้น และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจในต่างประเทศ
สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ของแบงก์ออฟไชน่าเพิ่มขึ้นแตะ 10.15% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว
ขณะที่การชำระบัญชีข้ามพรมแดนด้วยเงินหยวนเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 1.05 ล้านล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก
-- ธนาคารไชน่า หมิงเซิง ประกาศวานนี้ว่าผลกำไรสิทธิของธนาคารพุ่งขึ้น 36.9% สู่ระดับ 1.9 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก
แถลงการณ์ของไชน่า หมิงเซิงระบุว่า รายได้จากธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น 32.43% มาอยู่ที่ 5.15 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะที่สัดส่วนเงินกู้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 0.69% และสัดส่วนการกันสำรองสำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 352% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน