คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในยูโรโซนร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 86.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 จากระดับ 87.9 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่บรรดาผู้นำยูโรโซนกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการควบคุมวิกฤตหนี้และภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในภูมิภาค
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโคและกลุ่มนักบริหารในยูโรโซนมีมุมมองที่เป็นลบมากกขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค แม้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพยายามที่จะควบคุมความผันผวนอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะ โดยในวันนี้นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ประชุมร่วมกับนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในขณะที่สเปนกำลังพิจารณาที่จะขอรับเงินช่วยเหลือรอบที่สองจากยุโรป
ด้านทางการเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 9,000 รายในเดือนส.ค. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ส่วนใหญ่ที่ 8,000 ราย ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ 6.8% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเดือนก.ค.มีการปรับเพิ่มเป็น 9,000 รายจากเดิมที่รายงานไว้ที่ 7,000 ราย
ทั้งนี้ เยอรมนีมีผู้ว่างงานจำนวนทั้งสิ้น 2.9 ล้านคนในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับ 2.89 ล้านคนในเดือนก.ค.
การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานในวันนี้มีขึ้นหลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนส.ค.ปรับตัวลงแตะ 102.3 จาก 103.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับลดลง
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ระบุในรายงานฉบับใหม่วันนนี้ว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 - 2556 นั้นมีมากขึ้น ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็จะชะลอตัวลงกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้
มูดีส์ระบุว่า ความเสี่ยงหลักๆที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกได้แก่ภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนที่ถดถอยมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ความเสี่ยงของภาวะฮาร์ด แลนด์ดิ้งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญๆ เช่น จีน อินเดีย และบราซิล รวมทั้งภาวะผันผวนด้านราคาน้ำมันอันเนื่องมาจากความเสี่ยงของการเมืองในระดับภูมิภาค ตลอดจนความเสี่ยงของการคุมเข้มการคลังอย่างฉับพลันและเข้มงวดในสหรัฐในปีหน้า