นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ จัดการประชุมร่วมกับคณะผู้ตรวจสอบซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศที่สำนักนายกรัฐมนตรีในกรุงเอเธนส์ วันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการตัดลบงบประมาณรายจ่ายชุดใหม่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับกรีซเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดใหม่
นายยานนิส สตูร์นาราส รมว.คลังกรีซกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการเจรจาสิ้นสุดลงโดยที่ยังคงไม่ได้ข้อสรุปว่า การปรึกษาหารือจะดำเนินต่อไป
"เราเสนอชุดมาตรการมูลค่า 1.15 หมื่นล้านยูโร (1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งอยู่ในระหว่างการประเมิน การเจรจาเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เช่นเดียวกับมาตรการต่างๆ เราตั้งใจว่าจะโน้มน้าวให้ตัวแทนเจรจาเห็นดีเห็นงามกับเหตุผลของเรา" รมว.คลังกรีซกล่าวแสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผลการเจรจา
สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลที่ระบุว่า รัฐบาลกรีซพยายามหาทางให้รัฐสภาอนุมัติมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายชุดใหม่ภายในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้ทันกับการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ด้วยความหวังว่าที่ประชุมจะไฟเขียวอนุมัติเงินกู้งวดใหม่ซึ่งจะช่วยต่อลมหายใจให้กรีซได้อีกเฮือกหนึ่ง
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลกรีซได้นำเสนอกรอบการทำงานเพื่อลดรายจ่ายประจำปี 2556-2557 แก่ผู้ตรวจสอบจากทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งสนับสนุนแผนการปฏฺรูปและสร้างเสถียรภาพกรีซวงเงินหลายพันล้านยูโรมาตั้งแต่ปี 2553
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศได้แสดงความคลางแคลงใจเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของนโยบายบางข้อและความสามารถของรัฐบาลกรีซที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้ตามกำหนด
เพื่อปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณให้ได้ตามกำหนดนั้น คาดว่าคณะผู้ตรวจสอบจะกดดันกรีซให้ดำเนินมาตรการที่ยากลำบากเพิ่มเติมอีก อาทิ การปลดข้าราชการออกจากงานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการลดเงินเดือนและบำนาญ
ด้านรัฐบาลกรีซแย้งว่า การใช้นโยบายรัดเข็มขัดที่รุนแรงเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลได้นำมาใช้อยู่ก่อนแล้วนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตหนี้เมื่อช่วงปลายปี 2552 จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจถดถอยและขัดขวางการดำเนินการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซมีกำหนดเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งในวันพุธนี้ หลังจากที่การเจรจาเมื่อวันอาทิตย์คว้าน้ำเหลว เนื่องจากมีผู้ไม่เห็นด้วยกับการลดรายจ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะสวัสดิการและค่าแรงสำหรับคนยากคนจน
รัฐบาลผสมของกรีซจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากผู้ตรวจสอบและเจ้าหนี้ต่างประเทศสำหรับมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายมูลค่า 1.15 หมื่นล้านยูโร ซึ่งจะช่วยปูทางให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และการพ้นจากสมาชิกภาพยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลกรีซซึ่งเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ภายหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิ.ย. กำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นจากสหภาพแรงงานกลุ่มต่างๆซึ่งขู่ว่าจะจัดการประท้วงต่อไปเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้มาตรการรัดเข็มขัด สำนักข่าวซินหัวรายงาน