แถลงการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐเดือนก.ย.

ข่าวต่างประเทศ Friday September 14, 2012 10:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราปานกลางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่การเติบโตด้านการจ้างงานเป็นไปอย่างเชื่องช้า และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวในการลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจดูเหมือนชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มแสดงสัญญาณว่ามีการปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจากระดับที่ไม่น่าพอใจนักก็ตาม ส่วนเงินเฟ้อปรับลดลง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญบางชนิดปรับตัวขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาวยังคงทรงตัว

คณะกรรมการต้องการที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวในระดับสูงสุดและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเฟด คณะกรรมการกังวล หากไม่มีการผ่อนคลายนโยบายต่อไปแล้ว การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับปัจจุบันอาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ความกดดันในตลาดการเงินทั่วโลกยังคงก่อความเสี่ยงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ คณะกรรมการคาดว่าเงินเฟ้อในระยะกลางมีแนวโน้มจะอยู่ที่หรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2%

ทั้งนี้ เพื่อที่จะหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นและเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในอัตราที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเฟดนั้น คณะกรรมการได้เห็นพ้องกันในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมโดยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน วงเงิน 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ คณะกรรมการจะยังคงดำเนินแผนการที่จะขยายกำหนดไถ่ถอนเฉลี่ยของการถือครองสินทรัพย์ที่ได้ประกาศเมื่อเดือนมิ.ย.ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ และจะยังคงดำเนินนโยบายที่มีอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการนำการชำระเงินต้นจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและ MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน การดำเนินการเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้การถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวของคณะกรรมการเพิ่มขึ้นราว 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือนจนถึงสิ้นปี 2555 นั้น คาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว และช่วยหนุนตลาดจำนอง รวมทั้งช่วยทำให้ภาวะทางการเงินในวงกว้างมีความผ่อนคลายมากขึ้น

คณะกรรมการจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันข้างหน้าและจับตาดูความคืบหน้าทางการเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากแนวโน้มของตลาดแรงงานยังไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก คณะกรรมการจะยังคงเข้าซื้อ MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน, ดำเนินการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม และใช้เครื่องมือด้านนโยบายอื่นๆตามความเหมาะสมจนกว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นในบริบทของความมีเสถียรภาพด้านราคา ส่วนในการตัดสินใจเกี่ยวกับขนาด อัตราและองค์ประกอของการซื้อสินทรัพย์นั้น คณะกรรมการจะพิจารณาอย่างเหมาะสมอยู่เสมอเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่มีความเป็นไปได้และต้นทุนของการซื้อดังกล่าว

ในส่วนของการสนับสนุนความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านการจ้างงานสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคานั้น คณะกรรมการคาดว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะยังคงเป็นจุดยืนที่เหมาะสมหลังจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้ตัดสินใจที่จะคงช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ไว้ที่ 0-0.25% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับต่ำเป็นพิเศษมีแนวโน้มจะมีความเหมาะสมไปจนถึงกลางปี 2558 เป็นอย่างน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เบน เอส. เบอร์นันเก้ ประธานเฟด, วิลเลียม ซี. ดัดลีย์ รองประธานเฟด, เอลิซาเบธ เอ. ดุค, เดนนิส พี. ล็อคฮาร์ท, ซานดรา เพียนัลโต, เจอโรม เอช. เพาเวล, ซาราห์ บลูม ราสคิน, เจเรมี ซี. สเตน, แดเนียล เค. ทารุลโล, จอห์น ซี. วิลเลียมส์ และเจเน็ต แอล. เยลเลน

ส่วนผู้ที่คัดค้านการดำเนินนโยบายดังกล่าว คือ เจฟฟรีย์ เอ็ม. แล็คเกอร์ ซึ่งคัดค้านการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม และต้องการให้ตัดคำจำกัดของระยะเวลา ซึ่งมีแนวโน้มจะมีการสนับสนุนระดับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ต่ำเป็นพิเศษ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ