ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐหวั่น QE3 ไม่ช่วยหนุนเศรษฐกิจแข็งแกร่งอย่างที่คาด

ข่าวต่างประเทศ Friday September 14, 2012 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ด้วยการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ เฟดยังมีมติให้ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย

ฟิล แกรมม์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ และจอห์น เทย์เลอร์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกล่าวในบทวิเคราะห์ว่า "ในขณะที่นักลงทุนพยายามคาดการณ์ถึงช่วงเวลาและผลกระทบของนโยบายของเฟดที่จะมีต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินนั้น นโยบายการเงินของเฟดกลับยิ่งเพิ่มบรรยากาศความไม่แน่นอนและชะงักงันทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น หลังจากที่เผชิญภาวะดังกล่าวอยู่แล้วอันเนื่องมาจากนโยบายการคลังในปัจจุบัน"

"เมื่อเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวอีกครั้ง มาตรการของเฟดก็จะต้องกลับมาเป็นเหมือนกับยุคที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย และต้นทุนของ QE3 ในวันพรุ่งนี้จะมากกว่าผลประโยชน์ในวันนี้ค่อนข้างแน่นอน" ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองกล่าว

ขณะที่เจอรัลด์ โอดริสคอลล์ จูเนียร์ ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบัน Cato Institute กล่าวว่า QE3 เป็น "ทางเลือกที่แย่และไม่สร้างสรรค์" พร้อมกับกล่าวว่า ไม่มีนโยบายทางการเงินแบบพิเศษของเฟดใดๆเลยที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมากและยั่งยืน

นอกจากนี้ โอดริสคอลล์กล่าวว่า การให้เงินอุดหนุนแก่ภาคอยู่อาศัยถือเป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากธุรกิจการก่อสร้างบ้านได้ขยายตัวมากเกินไปอย่างชัดเจนในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 และถึงคราวต้องชะลอตัวลง แต่เฟดได้ทำให้การปรับตัวของภาคที่อยู่อาศัยและภาคการเงินล่าช้าออกไป ด้วยการให้สินเชื่อโดยตรงกับภาคธุรกิจเหล่านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ