กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ทำสถิติพุ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 0.6-0.7% เพราะได้รับอานิสงส์จากยอดขายน้ำมันและยานยนต์ที่พุ่งสูงขึ้น
ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายน้ำมันเบนซิลที่ทะยานขึ้น 5.5% ในเดือนที่ผ่านมา จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ค. และทำสถิติพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 นอกจากนี้ ยอดขายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.3% ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนยอดค้าปลีกของสหรัฐด้วยเช่นกัน
หากไม่นับรวมยอดค้าปลีกน้ำมันและยานยนต์นั้น ยอดค้าปลีกกระเตื้องขึ้น 0.1% หลังจากขยายตัว 0.8% ในเดือนก่อนหน้านี้
สำหรับยอดค้าปลีกในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ขยายตัวนั้นประกอบด้วยยอดค้าปลีกผลิตภัณฑ์ด้านวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น 1.0% รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และยอดขายในร้านอาหาร
ส่วนยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลดลงอยู่ในกลุ่มร้านขายเสื้อผ้า และร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา หนังสือ และดนตรีทรงตัว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐที่ขยายตัวสดใส แต่มีหลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 จะยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ จากอัตราว่างงานของสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในการประชุมเมื่อวานนี้พร้อมกับมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % โดยให้ขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557