ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องเพิ่มขึ้นให้มีการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คาดว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจจะประเมินความคืบหน้าต่างๆในตลาดสกุลเงิน เพื่อพิจารณาว่าการตัดสินใจของเฟดจะนำไปสู่การแข็งค่าต่อไปของเงินเยนเมื่อเทียบดอลลาร์หรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกของญี่ปุ่น
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า การดำเนินการของเฟดได้หนุนความเป็นไปได้ที่บีโอเจจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เช่น การขยายวงเงินของโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งบีโอเจคงขนาดโครงการไว้ที่ 70 ล้านล้านเยน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เฟดได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมผ่านทางการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ในตลาดมองว่าเป็นการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3
ความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ท่ามกลางความอ่อนแรงต่อเนื่องของเศรษฐกิจในต่างประเทศ เช่น ยูโรโซน ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อบีโอเจ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้เกี่ยวกับแผนการซื้อพันธบัตรรอบใหม่เพื่อช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้สิน
ในการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนส.ค. คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินได้ประกาศคงนโยบายการเงินไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ราว 0-0.1% และคงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ไว้ที่ 70 ล้านล้านเยน
นอกจากนี้ บีโอเจยังคงการประเมินเศรษฐกิจว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เริ่มปรับตัวขึ้นปานกลาง ท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2554 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน