นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนก.ย.อยู่ที่ 5,472 ราย ลดลง 2% จากเดือนส.ค.55 ที่มี 5,584 ราย แต่เพิ่มขึ้น 7.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 5,094 ราย ส่วนมูลค่ายอดจดทะเบียนตั้งใหม่เดือนก.ย.อยู่ที่ 16,975 ล้านบาท ลดลง 18% หรือ 3,808 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังลดลงมากถึง 41% หรือ 10,018 ล้านบาทจากเดือนส.ค.55 ที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ มีมูลค่าลงทุนเกินพันล้านบาทหลายโครงการ เช่น โรงกลั่นน้ำมัน และอู่ต่อเรือ
ส่วนยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ช่วง 9 เดือนปีนี้อยู่ที่ 46,733 ราย เพิ่มขึ้น 0.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 46,386 ราย
สำหรับประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริการนันทนาการ 790 ราย ก่อสร้างอาคารทั่วไป 501 ราย อสังหาริมทรัพย์ 233 ราย ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า 150 ราย และขายส่งเครื่องจักรและเครื่องมือเครื่องใช้ 147 ราย แต่ธุรกิจตั้งใหม่ที่มีมูลค่าทุนสูงสุดคือ อสังหาริมทรัพย์ 2,885 ล้านบาท รองลงมาคือ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 1,392 ล้านบาท การรีไซเคิลวัสดุ 1,218 ล้านบาท การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 652 ล้านบาท และบริษัทการลงทุน 549 ล้านบาท
ทั้งนี้ ล่าสุดมีนิติบุคคลทั่วประเทศดำเนินกิจการรวม 526,516 ราย มีทุนจดทะเบียนรวม 10.45 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทจำกัด/มหาชน 362,028 ราย ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 164,488 ราย สำหรับจำนวนธุรกิจคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตและยังดำเนินธุรกิจอยู่ ณ วันที่ 30 ก.ย.55 มีทั้งสิ้น 2,203 ราย มีเงินลงทุนขั้นต่ำ 4,188 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นยังเป็นชาติที่มีการลงทุนไทยสูงสุด รองลงมาคือ สิงคโปร์ เยอรมนี
"การจัดตั้งธุรกิจใหม่ปีนี้ แนวโน้มยังดีอยู่เพราะมีการจดทะเบียนสูงสุด ทั้งการจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่เฉลี่ย 5,193 ราย/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ย 4,600 ราย/เดือน คาดว่าปีนี้น่าจะมียอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ 60,000 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การจดทะเบียนเพิ่มทุนเฉลี่ย 1,111 ราย/เดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ย 1,000 ราย/เดือน" นายศิริวัฒน์กล่าวอย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนก.ย.55 พบว่า นิติบุคคลจดทะเบียนเลิกทั่วประเทศเดือนก.ย. 1,382 ราย เพิ่มขึ้น 2.06% จากเดือนส.ค.ที่อยู่ 1,354 ราย และเพิ่มขึ้น 11.99% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มี 1,234 ราย ส่วนยอดจดทะเบียนเลิก 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปีนี้อยู่ที่ 9,715 ราย เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 8,375 ราย ถือเป็นเหตุการณ์ปกติ ที่ช่วงปลายปียอดจดทะเบียนเลิกเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว