นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ธปท.เตรียมทยอยประกาศมาตรการผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ซึ่งเป็นมาตรการเฟสแรกที่จะนำมาใช้ในปี 55-56 และ ธปท.มีแผนจะประกาศมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 ที่จะเริ่มใช้ในปี 57 โดยจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อน
มาตรการที่จะประกาศในรอบนี้ ประกอบด้วย มาตรการเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเปิดเสรีการลงทุนโดยตรงของนิติบุคคล แต่บุคคลธรรมดายังกำหนดวงเงินที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี โดย ธปท.จะผ่อนคลายให้บุคคลธรรมดาสามารถลงทุนโดยตรงได้อย่างเสรีเช่นกัน
มาตรการส่งเสริมการนำเงินออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ปัจจุบันกำหนดผู้ลงทุนสถาบันมี 8 ประเภท มียอดคงค้างต่อรายที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนนักลงทุนรายย่อย ต้องลงทุนผ่าน private fund หรือโบรกเกอร์ มียอดคงค้างต่อรายไม่เกิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ และต้องขออนุญาต ซึ่ง ธปท.จะเพิ่มประเภทผู้ลงทุน คือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่จำกัดการลงทุนต่อราย ขยายขอบเขตประเภทหลักทรัพย์ที่ลงทุนได้ และลดขั้นตอนการขออนุญาตของนักลงทุนรายย่อย แต่ทั้งนี้รายย่อยยังต้องกำหนดเพดานวงเงินคงค้างไม่เกิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่จะลดขั้นตอนการขออนุญาตลง
มาตรการเกี่ยวกับประเภทบัญชีเงินฝากเป็นสกุลต่างประเทศ(FCD) ปัจจุบันแหล่งเงินได้จากต่างประเทศสามารถฝากได้โดยเสรี แต่แหล่งเงินในประเทศที่มีภาระผูกพันที่เป็นนิติบุคคล กำหนดยอดคงค้างที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากเป็น FCD ที่ไม่มีภาระผูกพันกำหนดไว้ที่ 5 แสนเหรียญสหรัฐ ผ่อนคลายให้ FCD ที่มีภาระผูกพันฝากได้โดยเสรีไม่มีเพดาน
ส่วนมาตรการบริหารความเสี่ยงและลดต้นทุน เกณฑ์ปัจจุบัน unwind hedging อนุญาตเฉพาะค่าสินค้าและบริการ ก็จะผ่อนคลายให้ทำได้โดยเสรีสำหรับธุรกรรมที่มี underlying และ อนุญาตซื้อขาย Currency Futures
และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับ MC/MT และ ASEAN linkage โดยปัจจุบัน MC/MT รับโอน FX ไม่จำกัด โอนออกเกิน 2 พันล้านเหรียญ รวมถึงให้โอนออกสำหรับการโอนเงินรายย่อย โดย ธปท.จะผ่อนคลายให้ MC/MT จะเพิ่มความคล่องตัว ด้วยการผ่อนคลายคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ ส่วน ASEAN linkage จะผ่อนผันขั้นตอนการซื้อหลักทรัพย์ผ่าน ASEAN linkage ที่เกี่ยวข้องกับ FX
นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจะทยอยประกาศใช้ ซึ่งบางเรื่องสามารถอนุมัติได้โดยอำนาจของธปท. และบางเรื่องขึ้นกับอำนาจของกระทรวงการคลัง มาตรการทั้งหมดเชื่อว่าจะทำให้มีเงินไหลออกไม่มาก แต่หากมีเงินไหลออกมาก็คงไม่เกิดความเสียหาย หากยังมีเงินไหลมาในอีกขาหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะทำให้ค่าเงินมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากมีการทำธุรกรรมมากขึ้น แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้