สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่าในรายงานว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นยังคงลดลงอย่างช้าๆ แม้ว่ารัฐสภาญี่ปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายการขึ้นภาษีการบริโภคทั่วประเทศก็ตาม
"การปรับขึ้นภาษีการขายจะไม่ทำให้เกิดรายได้มากพอที่จะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลลดลง หรือทำให้ภาวะรายได้และการใช้จ่ายของรัฐบาลมีความยั่งยืนเพิ่มขึ้นมากนัก" S&P กล่าวในรายงานสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา รัฐสภาญี่ปุ่นได้บังคับใช้กฎหมายการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคจากปัจจุบันที่ระดับ 5% เป็น 8% โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย. 2557 และจะปรับขึ้นเป็น 10% มีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค. 2558
ทั้งนี้ S&P ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของประเทศญี่ปุ่นไว้เท่าเดิมที่ AA- ซึ่งเป็นระดับสูงสุดขั้นที่ 4 และยังคงให้แนวโน้มเป็น "เชิงลบ"
S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงมาอยู่ที่ระดับ AA- เมื่อเดือนม.ค. 2554 และได้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มความน่าเชื่อถือจาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงลบ" เมื่อเดือนเม.ย. 2554 หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และคลื่นสึนามิได้เพียงเดือนเดียว