รัฐบาลสั่งทุกหน่วยงานระดมข้อมูลเตรียมพร้อมลงทุนเชื่อมโยงโครงการทวาย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 26, 2012 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกับกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมประเด็นสำหรับการประชุมคณะกรรมการไทย-เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายวันนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน ระบบไฟฟ้า และท่าเรือพื้นฐาน ซึ่งเป็นการลงทุนระยะแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาร่วมกันว่าจะมีการลงทุนโดยใครและอย่างไร

ทั้งนี้จะต้องได้ข้อสรุปก่อนที่จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีถึงความร่วมมือระหว่างไทย-พม่า ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ที่ประเทศไทย

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ได้พิจารณาถึงประเด็นที่รัฐบาลจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสนับสนุนโครงการทวาย ซึ่งได้หารือถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชนของไทยที่จะเข้าไปลงทุน เพราะเป้าหมายของรัฐบาลคือต้องการเห็นโครงการนี้เกิดขึ้นให้ได้ แต่จะมีการดำเนินการในรูปแบบใดนั้นต้องพิจารณาจากพื้นฐานความเป็นไปได้ และความเหมาะสมให้กับทุกฝ่าย

"สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องดำเนินการร่วมกัน ในการทำให้ทวายเกิดความหอมหวลสำหรับคนที่อยากจะไปร่วมโครงการ คือ ทำในสิ่งพวกนี้ให้เกิดความสะดวกสบาย เป็นเรื่องที่ไม่ต้องลงทุน และนำมาสู่การก่อสร้างท่าเรือ หรือไฟฟ้า หรือถนน จะลงทุนกันอย่างไร จะใช้สูตรไหน เพราะเป้าหมายของรัฐบาลต้องการให้เกิดโครงการนี้" โฆษกรัฐบาล กล่าว

ทั้งนี้ เลขาธิการ สศช.ได้นำเสนอรายงานบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างไทย-พม่า เพื่อเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมจะเดินหน้าตามข้อตกลงที่ทำไว้

น.ส.ศันสนีย์ กล่าวว่า การประชุมระดับระดับรัฐมนตรีไทย-พม่าที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และมีนายกิตติรัตน์ เป็นประธานนั้น จะมีการหารือใน 3 ประเด็น คือ 1.โครงการถนนในโครงการทวาย-ชายแดนพม่า ระยะทาง 132 กม. 2.โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย 3.โครงการพัฒนาไฟฟ้าและสายส่งระยะเริ่มแรกในพื้นที่เศรษฐกิจทวาย 33 เมกะวัตต์ ซึ่งผลจากการหารือในคณะกรรมการระดับสูงนี้จะนำไปสู่การแถลงข่าวร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับประธานาธิบดีพม่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-20 พ.ย.นี้ ที่ประเทศกัมพูชา

นอกจากนี้ ในการประชุมวันที่ 7-8 พ.ย.55 จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการทั้ง 6 สาขา ประกอบด้วย 1.โครงสร้างพื้นฐานก่อสร้าง 2.โครงสร้างอุตสาหกรรมเฉพาะด้านและพัฒนาธุรกิจ 3.โครงสร้างด้านพลังงาน 4.โครงสร้างพัฒนาชุมชน 5.ด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ 6.ด้านการเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ