นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี และบรรดาผู้นำจากองค์กรการเงินระดับโลก ได้เรียกร้องให้มีการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังและปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อฟื้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเปราะบาง และแนวโน้มยังคงไม่แน่นอน" นางแมร์เคลกล่าวพร้อมกับผู้นำขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD), องค์การการค้าโลก (WTO), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมในกรุงเบอร์ลิน
การคาดการณ์ของ IMF ระบุว่า ในขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญ “ความเสี่ยงขาลงอย่างมาก" โดยอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 3.3% ในปี 2555 และ 3.6% ในปี 2556
“เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวเล็กน้อยและความไม่แน่นอนอย่างมาก ความเชื่อมั่นของตลาดการเงิน นักลงทุนและภาคครัวเรือนจึงยังไม่กลับมาอยู่ที่ระดับก่อนเกิดวิกฤต" บรรดาผู้นำกล่าว
กลุ่มผู้นำแสดงความวิตกว่า “ระดับหนี้สินในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่สามารถจัดการได้ ขณะที่อัตราว่างงานแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ"
แถลงการณ์ระบุว่า การที่จะฟื้นความเชื่อมั่นและหนุนแนวโน้มการขยายตัวและการจ้างงานนั้น ต้องมีการดำเนินมาตรการที่ชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางการคลังในอัตราที่เหมาะสม ควบคู่กับการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง
บรรดาผู้นำได้เรียกร้องให้ยูโรโซนจัดการเกี่ยวกับอนาคตของสหภาพการเงินยุโรปโดยดำเนินการปฏิรูปแบบเบ็ดเสร็จที่มีจุดประสงค์เพื่อหนุนการขยายตัวและศักยภาพการแข่งขัน" และเรียกร้องให้สหรัฐเริ่มดำเนินการเสริมการแข็งแกร่งทางการคลังที่เชื่อถือได้
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศเกิดใหม่ปรับนโยบายเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆในการเดินหน้าสู่แนวทางการขยายตัวทั้งในวงกว้างและอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นางแมร์เคลและบรรดาผู้นำทั้ง 5 คนที่เดินทางเยือนเยอรมนี ซึ่งรวมถึงนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF, นายแองเจล กูร์เรีย เลขาธิการ OECD, นายปาสคาล ลามี ผู้อำนวยการ WTO, นายกาย ไรเดอร์ ผู้อำนวยการ ILO และนายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก ยังได้ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันในอนาคตในด้านนวัตกรรมใหม่ๆ การศึกษา การปฏิรูปตลาดแรงงาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งการค้าระหว่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน