In Focusเปิดตัว 3 คนดังที่สุดแห่งปี 2555

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 6, 2012 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปีมังกรทองกำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะมาบรรจบอีกครั้ง ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญๆเกิดขึ้นมากมาย และเหตุการณ์เหล่านั้นก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับหลายคนจนโด่งดังไปทั่วโลก สำหรับปีนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของ 3 คนดังจากวงการต่างๆที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุด ณ ขณะนี้

บารัค โอบามา ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐอีก 4 ปี

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ เป็นหนึ่งในบุคคลจากแวดวงการเมืองที่โดดเด่นที่สุดในซีกโลกตะวันตกมาตลอดทั้งปี 2555 เช่นเดียวกับนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

แต่อย่างไรก็ดี หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดในปีนี้ก็คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกทั้งทางเศรษฐกิจ ทหาร และ เทคโนโลยี พร้อมกับการลุ้นระทึกของกลุ่มสาวกผู้นำประเทศมหาอำนาจว่า บารัค โอบามา จะสามารถเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างนายมิทท์ รอมนีย์ ได้หรือไม่

ปี 2555 นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้นำสหรัฐวัย 50 ปีที่มีคะแนนความนิยมตกต่ำติดต่อกันหลายเดือน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาการคลังของประเทศ แต่อย่างไรก็ดี คะแนนความนิยมของโอบามาได้กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สอง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐก็ได้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยโอบามาได้แสดงความเป็นผู้นำอย่างโดดเด่น ชาญฉลาด สุขุม และไว้ใจได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ถึงแม้ว่าจะมีภาระกิจที่หนักอึ้งในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่โอบามาก็สามารถทำภาระกิจหลักอื่นๆควบคู่กันได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น การนำศพชาวอเมริกันกลับบ้านจากลิเบีย หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีสถานทูตสหรัฐซึ่งส่งผลให้เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำลิเบียต้องเสียชีวิต ภารกิจการนำทหารที่ตรากตรำศึกมานานในปากีสถานกลับสู่มาตุภูมิ ในขณะที่ในบ้านเองสหรัฐก็ได้เกิดภัยแล้งในเขตมิดเวสต์ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ตลอดทั้งพายุขนาดใหญ่ที่พัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อัตราว่างงานของประเทศซึ่งทรงตัวอยู่เหนือ 8% ติดต่อกันมาอย่างยาวนานก็ได้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะยังคงเผชิญกับปัญหาภาวะหน้าผาการคลังหรือที่เรียกว่า fiscal cliff ซึ่งมีเส้นตายที่ต้องแก้ไขให้ได้ก่อนสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ไม่เช่นนั้น สหรัฐก็จำเป็นต้องปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบประมาณลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า

เมื่อพิจารณาถึงความยากลำบากในการแก้ปัญหาดังกล่าว ชาวอเมริกันจึงมอบความไว้วางใจให้โอบามากลับเป็นผู้นำคณะทำงานอีกครั้ง โดยเชื่อว่ายังไม่มีใครที่แสดงบทบาทผู้นำได้โดดเด่นไปกว่าเขาในขณะนี้

สี จิ้นผิง กลายเป็นบุคคลที่ทั่วโลกคาดหวังว่าจะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่จีน

ซีกโลกตะวันออกก็มีบุคคลจากแวดวงทางการเมืองที่แสดงความเป็นผู้นำได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้โอบามาเช่นเดียวกันในตลอดทั้งปี 2555 ซึ่งรวมไปถึง นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน และประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า

แต่อย่างไรก็ดี บุคคลจากซีกตะวันออกที่ทั่วโลกจับตาดูมากที่สุดในขณะนี้คงหนีไม่พ้น นายสี จิ้นผิง จากจีนซึ่งเป็นคู่แข่งขันตัวเอ้ของสหรัฐทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทหาร และ เทคโนโลยี โดยนายสี จิ้นผิง ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคาดว่าจะเข้ามาสืบทอดอำนาจผู้นำจีนต่อจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ในฤดูในไม้ร่วงปีหน้า

นักวิเคราะห์ยังคาดว่า นายสีจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นอย่างแข็งแกร่งให้กับนักลงทุนทั้งจากซีกโลกตะวันตกและตะวันนออกได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ขยายตัวได้ในระดับเดียวกับที่ผ่านๆมาในปีหน้า นอกจากนี้ นายสี ยังมีความเป็นผู้นำสมัยใหม่ และมีสไตล์ความเป็นผู้นำที่แตกต่างอย่างมากจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของเขาในการผลักดันจีนไปสู่ประเทศที่มั่งคั่ง

สำนักข่าวบีบีซีเชื่อว่า นายสีจะบริหารประเทศในเชิงผ่อนคลายมากกว่าประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งบีบีซีมองว่ามีความแข็งกระด้าง โดยนายสีมักจะมีรอยยิ้มและแม้แต่กล่าวขอโทษที่ทำให้ผู้ฟังต้องรอการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา นอกจากนี้ นายสียังได้แสดงออกทางอารมณ์เล็กน้อยในขณะที่กล่าวบรรยาย

หลายคนมองว่า นายสีมีจิตวิญาณแห่งความเป็นผู้นำเช่นเดียวกับบิดาซึ่งเป็นฮีโร่ในการปฏิวัติเคียงข้างกับประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุง ซึ่งหมายความว่าเขามีจิตวิญญาณแห่งการปกครองพรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่ในสายเลือด

นอกจากนี้ นายสียังเป็นคนตรงที่ไปตรงมาในระหว่างที่กล่าวสุนทรพจน์ และถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ประธานาธิบดีหูเคยพูดไปก่อนหน้านั้น แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และนายสียังพยายามทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆที่ผู้คนสนใจอย่างถ่องแท้ สำหรับเขา ชาวจีนต้องได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่น่าพอใจมากขึ้น มีสวัสดิการสังคมที่ดีขึ้น และหน่วยงานราชการจีนต้องแก้ปัญหาต่างๆด้วยความพยายามสูงสุด

โป จียือ แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์พันธงว่า นายสีจะเป็นผู้นำที่แตกต่างจากผู้นำจีนคนอื่นๆ

แต่อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงอำนาจในจีนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย และในช่วง 1 ทศวรรษจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และในแต่ละครั้งก็จะนำมาซึ่งความหวังที่ว่า ผู้นำจีนจะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศ

หมินซิน เป่ย แห่งวิทยาลัยแคลร์มองท์ แมคเคนนา ในแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า นายสี จิ้นผิง ก้าวขึ้นสู่อำนาจพร้อมกับความอ่อนน้อมถ่อมตน มีน้อยคนมากที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับว่าที่ผู้นำจีนคนต่อไปและความคิดของเขา ซึ่งนับเป็นเรื่องชาญฉลาดอย่างยิ่งที่ผู้นำคนใหม่จะไม่เปิดเผยไม้เด็ดของตนเอง และนายสีก็มีความชาญฉลาดมากในเรื่องดังกล่าว

“ไซ" เต้นควบม้าจนโด่งดังไปทั่วโลกติดต่อกันอย่างยาวนาน

แวดวงบันเทิงไม่เคยร้างคนมีชื่อเสียงที่สามารถผลักดันตนเองให้ไปยืนอยู่ในแถวหน้าของโลกได้ในแต่ละปี และปีนี้ก็เช่นกัน มีหลายๆคนที่โด่งดังขึ้นมาจากความสามารถของตนเอง ซึ่งในจำนวนนั้นรวมไปถึงเจย์ซี นักร้องเพลงแร็พและสามีสุดที่รักของบิยองเซ และพิธีกรตลกอย่างจอน สจ๊วต

แต่อย่างไรก็ดี สำหรับหลายๆคนที่คนอัพโหลดผลงานวิดีโอของตนเองไปบนเว็บไซต์ยูทู้บ จะซักมีกี่คนที่วิดีโอมียอดเข้าชมมากถึงกว่า 860 ล้านครั้งและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ผู้ชมบางรายยังดูวิดีโอดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ

วิดีโอ Gangnam Style ของปาร์ก แจ ซัง หรือที่รู้จักในชื่อว่า “ไซ" จากเกาหลีใต้ที่มาพร้อมกับท่าเต้นควบม้าขโยกจนสามารถทำสถิติแซงหน้ายอดผู้เข้าชม Baby ของจัสติน บีเบอร์ นักร้องวัยรุ่นชาวแคนาดาที่ครองแชมป์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อัพโหลดขึ้นบนยูทู้บเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ได้ในเดือนพฤศจิกายน

กังนัม สไตล์ ถูกอัพโหลดขึ้นบนยูทู้บเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2555 และถึงแม้ว่าจะมีระยะเวลาสั้นกว่า แต่ก็สามารถทำสถิติได้รับการเช้าชม 795 ล้านครั้งได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเบียดแซงสถิติ 804 ล้านครั้งของ Baby ได้ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากทำสถิติได้รับการกดไลค์สูงสุดตลอดกาลในเดือนกันยายน ขณะที่ผู้ชื่นชอบเพลงดังกล่าวหลายรายเชื่อว่ายอดผู้เข้าชมจะทะลุ 1 พันล้านครั้ง

หนังสือพิมพ์เดอะ เทเลกราฟ ของอังกฤษระบุว่า วิดีโอกังนัมสไตล์บนยูทู้บมียอดเข้าชมถึงวันละ 11 ล้านคน

ทั้งนี้ กังนัม สไตล์ ได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากกินเนส บุ๊ก ให้เป็นวิดีโอที่ได้รับการกดไลค์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนตุลาคม หลังได้รับกดไลค์กว่า 4,911,081 ครั้ง ทิ้งห่างอันดับสอง Party Rock Anthem ของ LMFAO ที่ได้รับกดไลค์ 1,574,963 ครั้งอย่างไม่เห็นฝุ่น ขณะที่ Baby ของจัสติน บีเวอร์ได้รับกดไลค์เพียง 1,327,147 ครั้ง

ในขณะเดียวกัน ไซยังได้รับรางวัลเกียรติยศจากดีเจสก๊อตต์ มิลส์ แห่ง BBC Radio 1 ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่สถานี ในฐานะเจ้าของผลงานเพลงที่มีผู้ฟังมากที่สุดของสถานี

นอกจากสถิติดังกล่าวแล้ว ท่าเต้นกังนัม สไตล์ ยังได้ถูกนำไปทำเป็นวอลล์เปเปอร์สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยและ iOS ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแรงของเพลงและกระแสความนิยมติดต่อกันอย่างยาวนานชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สำหรับปีหน้าจะมีเหตุการณ์สำคัญใดเกิดขึ้นบ้าง คงต้องรอดูกันต่อไป และคนสำคัญของปีนี้ จะยังเป็นคนสำคัญของปีหน้าหรือไม่ ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ