สำหรับภาพรวมเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ (หักรายได้รอตัดบัญชี)ปี 55 สามารถเติบโตได้อย่างสดใส และน่าจะจบสิ้นปีด้วยอัตราการเติบโตที่กรอบคาดการณ์ 13.5-14.5% จากสิ้นปี 54 กรณีพื้นฐานที่ 14% โดยมองว่าสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อภาคธุรกิจในปี 55 น่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 24.0% และ 10.0% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 54 ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาภาพรวมสินเชื่อภาคธุรกิจในปี 56 แล้ว คาดว่าน่าจะเติบโตได้ในกรอบคาดการณ์ 8-10% เมื่อเทียบกับปี 55 (ค่ากลางที่ 9.0%) นำโดยสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่น่าจะมีบทบาทต่อพอร์ตสินเชื่อภาคธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ในระดับที่มากขึ้น ขณะที่ สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ คงเผชิญกับปัจจัยท้าทาย ทั้งการหันไประดมเงินทุนผ่านทางเลือกอื่นๆ ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในระดับที่หนาแน่นขึ้น และการวางแผนปรับน้ำหนักของพอร์ตสินเชื่อล่วงหน้าของธนาคารพาณิชย์ เพื่อรับมือกับการทยอยบังคับใช้หลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำของ Basel III
ด้านสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อย คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 2556 โดยมีส่วนแบ่งตลาดในพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 35% ในสิ้นปี 2556 จากราว 33% ณ สิ้นไตรมาส 3/2555 ด้วยอัตราการเติบโตที่ 17 - 19% (ค่ากลางที่ 18%) ตามแรงสนับสนุนของความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิตเป็นสำคัญ
แม้ว่าภาพการประเมินสินเชื่อข้างต้นนั้น อาจให้ทิศทางการขยายตัวที่ยังค่อนข้างสดใส แต่ต้องยอมรับว่ามีหลายปัจจัยทั้งเชิงบวกและเชิงลบซึ่งอาจกระทบต่อลูกค้าภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อยของธนาคารในมิติที่แตกต่างกันไปตามความสามารถในการปรับตัวของแต่ละฝ่าย ทั้งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการ ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ตลอดจนการเร่งระดับขึ้นของหนี้ครัวเรือน ซึ่งประเด็นต่างๆ ข้างต้น คงกลับมาเป็นโจทย์สำคัญของธนาคารพาณิชย์ไทยที่จะต้องประคองโมเมนตัมการเติบโตของสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการเบิกใช้สินเชื่อของลูกค้า
ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ตลอดจนไม่เป็นปัจจัยที่สร้างความอ่อนไหวให้กับระบบการเงินไทย ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม คงได้แก่ แนวทางการกำกับดูแลสถาบันการเงิน (Macro Prudential) ของธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากอาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทยในอนาคต