ทั้งนี้ มูลค่าคูปองที่จะแจกให้ครัวเรือนไทยจะขึ้นอยู่กับ"ราคาตั้งต้น"ใบอนุญาตทีวีดิจิทัลประเภทบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 24 ช่อง รวมช่องเอชดี 4 ช่อง โดยมูลค่าคลื่นความถี่ที่ได้จากการประมูลดังกล่าวจะครอบคลุมมูลค่าคูปองที่ต้องแจกให้ทุกครัวเรือน โดยส่วนต่างของรายได้จากการประมูลทีวีดิจิทัล หลังหักลบจากมูลค่าคูปองที่ต้องแจกให้ครัวเรือนไทยแล้วจะนำไปสมทบกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของ กสทช.
สำหรับสัดส่วนการกระจายคูปองให้ครัวเรือนไทยจะสอดคล้องกับแผนการขยายโครงข่ายทีวีดิจิทัล คือ ปีแรกจะต้องครอบคลุมพื้นที่ 50% ปีที่สอง 80% ปีที่สาม 90% และปีที่สี่ 95%
"ความเห็นของคณะอนุฯ เรื่องการแจกคูปองยังอยู่ในขั้นหลักการ โดยรายละเอียดในการกระจายคูปองและมูลค่าจะนำเข้าสู่การประชุมของบอร์ดกระจายเสียงในวันจันทร์ที่ 14 มกราคมนี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติหลักการก่อน"พ.อ.นที กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการทดลองออกอากาศทีวีดิจิทัลในวันที่ 18 ม.ค.นี้ กสทช.จะลงนามบันทึกข้อตกลงการทดลองออกอากาศทีวีดิจิทัลกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสระยะเวลา 6 เดือน ส่วนช่อง 5 ช่อง 9 และช่อง 11 จะอยู่ในช่วงช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ก.พ.56 จะสรุปหลักเกณฑ์ รูปแบบ และวิธีการเกี่ยวกับการประมูลช่องทีวีดิจิทัล รวมทั้งราคาตั้งต้นที่ได้มอบหมายให้คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปศึกษามูลค่าคลื่นความถี่ โดยศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ซึ่งแตกต่างไปจากการประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคมที่ต้องการได้มูลค่าคลื่นความถี่สูงสุด
รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มช่องรายการประเภทความละเอียดสูง(HD) จากเดิมที่จัดสรรคลื่นเพื่อประมูลประเภทช่องรายการทั่วไปเอชดี 4 ช่อง รวมกับช่องทั่วไปทั้งประเภทสาธารณะ, ชุมชน และช่องทั่วไปรวม 48 ช่อง คาดสรุปจำนวนช่องทีวีดิจิทัลที่จะจัดสรรและประมูลได้ราวเดือน มี.ค.56