ทั้งนี้จากผลการลงพื้นที่สำรวจกลุ่มผู้ใช้แอลพีจี โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ทั้งกลุ่มหาบเร่แผงลอย และประชาชนทั่วไป พบว่า ส่วนใหญ่เข้าใจนโยบายทยอยปรับขึ้นราคา LPG และต้องการเห็นภาพความชัดเจนเรื่องการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-หาบเร่แผงลอยโดยเร็ว ซึ่งผลสำรวจจะเสร็จสิ้นในเดือนมี.ค. ในขณะนี้ได้มีการรายงานต่อนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงาน เป็นระยะๆ
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ราคาข้าวแกงไม่น่าจะปรับขึ้น เพราะรัฐบาลจะช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอย 5 แสนราย และกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 90 หน่วยต่อเดือน จำนวน 8.4 ล้านครัวเรือน กลุ่มนี้ราคาก๊าซจะไม่ปรับขึ้น ส่วนในกรณีที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ต้นทุนราคาข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวต่อจานจะเพิ่มเพียง 6 สตางค์เท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ข้ออ้างการขึ้นราคาขาย
สำหรับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นผลดีที่ทำให้แม้ช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้น แต่ราคาขายปลีกของไทยไม่ได้ขึ้นราคา โดยทุกอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท/ดอลลาร์ จะมีผลต่อราคาน้ำมัน 80 สตางค์/ลิตร และทุกๆ ครั้งที่ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลง 1 ดอลลาร์/บาร์เรล จะมีผลต่อราคาน้ำมัน 20 สตางค์/ลิตร อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันภาพรวมในปีนี้จะลดลงหรือไม่ขึ้นกับการใช้ของประชาชน เพราะหากราคาน้ำมันโลกลดลง เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เมื่อราคาน้ำมันลง ก็จะทำให้คนใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นก็ได้
นอกจากนี้ สนพ.จะมีการเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ตรึงราคาก๊าซ LPG 18.13 บาท/กิโลกรัม จาก มกราคม-มีนาคม 2556 จากเดิมสิ้นสุดตรึงราคาวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และเสนอโครงการส่งเสริมหญ้าเลี้ยงช้างเพื่อผลิตเป็นพลังงานทดแทน โครงการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวในโครงการเซเสด และน้ำเงี้ยบด้วย