ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินเยนอ่อนหลังที่ประชุม G-20 ลงมติไม่โจมตีค่าเงิน

ข่าวต่างประเทศ Monday February 18, 2013 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) หลังจากที่ประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G-20 ลงความเห็นว่าไม่ควรมีการโจมตีค่าเงินเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแข่งขัน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.42 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 93.02 เยน แต่ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9223 ฟรังค์ จากระดับ 0.9228 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3347 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5514 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5484 ดอลลาร์สหรัฐ

เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุม G-20 เห็นพ้องต้องกันว่าจะงดเว้นการแข่งขันกันลดค่าเงินของประเทศตนเอง และเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่โจมตีอัตราแลกเปลี่ยนด้วยจุดประสงค์ด้านการแข่งขัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีความเห็นว่าความผันผวนมากเกินไปของงบกระแสเงินสดและการเคลื่อนไหวอย่างไร้ระเบียบของอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ส่งผลเสียต่อความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจ พร้อมกับระบุว่า การใช้นโยบายการเงินควรมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

ทั้งนี้ ที่ประชุมให้คำมั่นว่าจะลดผลเสียของการใช้นโยบายต่างๆ ที่มีผลต่อประเทศอื่นให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจัดการกับสถานการณ์ทางการคลังที่ไม่มั่นคงในประเทศ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั้งด้านลบและบวก โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่า ดัชนี Empire State Manufacturing Index ปรับตัวขึ้นสู่แดนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 โดยเพิ่มขึ้น 18 จุดมาอยู่ที่ 10 จุด ในขณะที่ตัวเลขดัชนีสำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้าก็ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต

นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ลดลง 0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดกันว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงแตะ 79.1% ในเดือนม.ค. จาก 79.3% ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

รายงานของเฟดระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในช่วงเดือนแรกของปี 2556 เป็นผลมาจากการผลิตที่ลดลงในภาคการผลิตและอุตสาหกรรมรถยนต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ