ผลสำรวจชี้เกาหลีใต้เผชิญความเสี่ยงเชิงระบบจากวอนแข็ง,เอกชนผิดนัดชำระหนี้

ผลสำรวจความคิดเห็นผู้จัดการความเสี่ยงและผู้จัดการด้านการเงิน 90 รายจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศโดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ พบว่านักลงทุนในตลาดระบุว่าปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ความขัดแย้งด้านสกุลเงิน การร่วงลงของราคาที่อยู่อาศัย ความเสี่ยงด้านสินเชื่อภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นและวิกฤตการคลังของยูโรโซน เป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่สำคัญ 5 ประการที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญอยู่

ประเด็นความขัดแย้งด้านสกุลเงินและความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ของภาคเอกชน นับเป็นประเด็นใหม่ที่ถูกรวมไว้ในความเสี่ยงของเกาหลีใต้ ขณะที่เงินวอนที่แข็งค่าและการครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ภาคเอกชนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนในตลาดเกิดความวิตก

การสำรวจรอบครึ่งปีดังกล่าวมีขึ้นในช่วงวันที่ 17-24 ม.ค.

เงินวอนเกาหลีใต้ได้ทะยานขึ้น 3.5% เทียบดอลลาร์สหรัฐนับแต่เดือนก.ย.2555 ซึ่งจุดปะทุความวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการในต่างประเทศที่ลดลงของกลุ่มผู้ส่งออกเกาหลีใต้เมื่อมีการโอนเงินกลับประเทศ ขณะที่เงินเยนร่วงลงกว่า 17% เทียบดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ศักยภาพการแข่งขันด้านราคาของบริษัทเกาหลีใต้อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างอ่อนแอ

ทางด้านบริษัทในเกาหลีใต้กำลังมีความเสี่ยงด้านสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชนจะครบกำหนดไถ่ถอนสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2556 โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแอลจีระบุว่า หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ มีมูลค่าสูงถึง 40.4 ล้านล้านวอน (3.7 หมื่นล้านดอลลาร์)

ทางด้านสถาบันการพัฒนาเกาหลี (KDI) เปิดเผยว่าการซื้อขายอพาร์ทเมนท์ในเกาหลีใต้ในปี 2555 ลดลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งเพิ่มความกังวลว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวลงต่อไปในปี 2556 ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยในกรุงโซลและพื้นที่เขตชานเมืองยังคงมีแนวโน้มขาลงในปีที่แล้ว โดยราคาบ้านในกรุงโซลปรับลดลง 3.6% สำนักข่าวซินหัวรายงาน