การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เรียกร้องให้กระทรวงพลังงานสหรัฐอนุมัติการส่งออกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการสร้างงานของสหรัฐ
-- กระทรวงอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศจีน (MIIT) เปิดเผยว่า ภาคโทรคมนาคมของจีนมีรายได้จากธุรกิจหลัก 8.72 หมื่นล้านหยวน (1.384 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่รายได้จากธุรกิจโดยรวมเพิ่มขึ้น 9.1% แตะ 1.1116 แสนล้านหยวน
-- สิงคโปร์วางแผนที่จะขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์กับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านที่หรูหรา หลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการเก็งกำไรในภาคอสังหาฯเมื่อเดือนที่แล้ว
-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมเสนอชื่อนายทาเคฮิโกะ นาคาโอะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงิน ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) หากรัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติให้นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ประธานเอดีบีคนปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)
-- โรเดียม กรุ๊ป บริษัทให้คำปรึกษาของสหรัฐที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคในจีน ระบุว่า ยุโรปดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนชาวจีนได้มากกว่าสหรัฐถึงสองเท่าในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา จากโอกาสทางการค้าและเหตุผลทางการเมือง
-- นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่าเฟดควรยังคงดำเนินการซื้อพันธบัตรต่อไปเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
-- ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ย้ำถึงเรื่องความสำคัญของราคาที่มีเสถียรภาพ หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่ให้คำมั่นว่า จะดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 2%
-- กระทรวงยุทธศาสตร์และการคลังของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของเกาหลีใต้ในปี 2555 ร่วงลง 14.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 3.901 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากบริษัทเอกชนเกาหลีใต้พยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนในโครงการเหมืองแร่ในต่างประเทศ
-- ราคาพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีร่วงลง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมายังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ใครจะขึ้นมาเป็นจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้เกิดความกังวลว่า วิกฤตหนี้ยุโรปจะทวีความรุนแรงขึ้น
-- นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีไม่ได้ให้ความสนใจกับความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งของประเทศ พร้อมกับยืนกรานว่า รัฐบาลชุดใหม่จะสามารถจัดตั้งขึ้นได้