ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ เหตุการเมืองอิตาลีไร้ทิศทาง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 27, 2013 07:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในอิตาลี ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ค่าเงินยูโรร่วงลงสู่ระดับ 1.3056 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3121 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5130 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5109 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9321 ฟรังค์ จากระดับ 0.9305 ฟรังค์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.94 เยน จากระดับ 92.62 เยน

สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากผลการเลือกตั้งของอิตาลีก่อให้เกิดความวิตกว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ผลเบื้องต้นระบุว่าพรรคกลาง-ซ้ายของนายปิแอร์ ลุยจิ เบอร์ซานีกวาดเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่กลับมีที่นั่งไม่มากพอในวุฒิสภา ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากในการที่จะผ่านร่างกฎหมายต่างๆ

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นจากกระทรวงมหาดไทยอิตาลีระบุว่า กลุ่มพรรคกลาง-ซ้ายที่นำโดยนายปิแอร์ ลุยจิ เบอร์ซานีได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อที่จะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่นายเบอร์ซานีไม่มีที่นั่งมากพอในวุฒิสภา

นักวิเคราะห์คาดว่า นายเบอร์ซานีมีจำนวนที่นั่งในวุฒิสภา 121 ที่นั่ง ขณะที่นายแบร์ลุสโคนีคว้าไปได้ 117 ที่นั่ง พรรคไฟฟ์ สตาร์ มูฟเมนท์ของนายเบปเป้ กริลโล มีจำนวน 54 ที่นั่งและนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ได้ไป 22 ที่นั่ง ซึ่งตามกฎหมายการเลือกตั้งของอิตาลีนั้น พรรคการเมืองหรือกลุ่มพรรคการเมืองใดๆต้องมี 158 ที่นั่งในวุฒิสภาจากจำนวนทั้งหมด 315 ที่นั่ง เพื่อครองเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ หลายฝ่ายประเมินว่าสถานการณ์ทางการเมืองของอิตาลีมีแนวโน้มจะไร้เสถียรภาพในระยะใกล้นี้ และจะส่งผลให้การดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างล่าช้าออกไป หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนพ.ย.2555 จากระดับ 58.4 ในเดือนม.ค.

ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.6% แตะที่ 437,000 ยูนิตในรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค.2551 และราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐที่ความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนธ.ค. 2555 ปรับตัวขึ้น 0.9% จากเดือนพ.ย. และพุ่งขึ้น 6.8% จากเดือนธ.ค.2554 ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดในรายปีนับแต่เดือนก.ค. 2549


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ