IIF เปิดเผยในรายงาน "Capital Markets Monitor" ฉบับล่าสุดว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการตรึวอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน แต่มีความเสี่ยงว่าตลาดการเงินมีแนวโน้มต้องพึ่งพาแนวทางเหล่านี้
"ความจริงแล้ว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงผลพวงของการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินทั่วโลก มากกว่าที่จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริง และยิ่งเศรษฐกิจทั่วโลกต้องพึ่งพาสภาพคล่องของธนาคารกลาง ก็จะยิ่งทำให้ระบบการเงินมีสภาพคล่องสูงเกินไปและบิดเบือนไปจากปัจจัยพื้นฐาน" IIF ระบุเตือนในรายงานดังกล่าว
นอกจากนี้ IIF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สำคัญ 4 ประการ ซึ่งรวมถึงความยุ่งยากที่เกิดจากภาวะ hung parliament หรือการที่ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของอิตาลี, ผลพวงของมาตรการปรับลดการใช้จ่ายในสหรัฐ, ความเห็นที่ไม่ลงรอยกั้นอย่างมากภายในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ว่าควรจะเดินหน้า QE3 ต่อไปหรือไม่ และความพยายามของญี่ปุ่นในการจัดการกับภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 ปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน