ส่วนการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ในเดือนก.พ.56 อยู่ที่ 181,495 ตัน/เดือน เพิ่มขึ้น 95.6% จากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 5,163 ล้านบาท สาเหตุที่มีการนำเข้ามาก เนื่องจากในเดือนม.ค.เรือขนส่ง LPG จากต่างประเทศมาถึงท่าล่าช้า และมีการนำ LPG ภาคครัวเรือนไปใช้ในภาคส่วนอื่นๆ มากขึ้น
โดยคาดการณ์ว่าในเดือนมี.ค.ปีนี้จะมีการนำเข้า LPG ประมาณ 132,000 แสนตัน/เดือน และจะเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 1.7-1.8 แสนตัน ในช่วงเดือนเม.ย. และพ.ค. เนื่องจากในเดือนพ.ค.จะมีโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6 ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จะหยุดซ่อมบำรุงประจำปี จะทำให้กำลังการผลิตทั้งสองโรงเหลือแค่ 50%
ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนก.พ.56 อยู่ที่ 134,000 บาร์เรล/วัน ลดลง 13.3% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 14,141 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือนก.พ.56 เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ในส่วนของกลุ่มน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 21.84 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 1.3% แบ่งเป็น น้ำมันเบนซิน 95 และ 91 จำนวน 2.2 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 45.3% น้ำมันแก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 19.64 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 8.5% ส่วนน้ำมันดีเซลมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 59.50 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 0.8%
สาเหตุที่ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ลดลง เนื่องจากรัฐบาลได้มีการประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แทน
ส่วนปริมาณการใช้ LPG อยู่ที่ 594,281 ตัน/เดือน ลดลง 5.3% แบ่งเป็น การใช้ LPG ในภาคครัวเรือน 196,515 ตัน/เดือน LPG ภาคอุตสาหกรรม 48,750 ตัน/เดือน แอลพีจีภาคขนส่ง 127,376 ตัน/เดือน และ LPG ภาคปิโตรเคมี 221,640 ตัน/เดือน และปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) อยู่ที่ 8.6 ล้านกิโลกรัม/วัน เพิ่มขึ้น 6.8%