(เพิ่มเติม) บีโอเจมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2%

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 4, 2013 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกภายใต้การนำของนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ โดยบีโอเจจะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบเชิงรุก จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เพื่อจัดการกับปัญหาเงินฝืด

คณะกรรมการบีโอเจได้ตัดสินใจใช้กรอบการทำงานแบบใหม่สำหรับการซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนนานขึ้น และเพิ่มการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยง

ทั้งนี้ คณะกรรมการบีโอเจมีมติดังต่อไปนี้

  • ให้คำมั่นสัญญาว่า จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ภายในระยะเวลา 2 ปี
  • จะเพิ่มการถือครองพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลญี่ปุ่นเป็น 50 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อฉุดอัตราดอกเบี้ยให้ลดลง
  • ให้คำมั่นสัญญาว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท รวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี
  • ขยายโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนในปัจจุบันไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี
  • จะซื้อกองทุน ETF วงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อกองทุน REIT วงเงิน 3 หมื่นล้านเยนต่อปี

-- จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินรอบใหม่ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การรวมโครงการซื้อพันธบัตร 2 โครงการให้อยู่ในโครงการเดียวกัน

  • เดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%
  • จะระงับหลักการ "หลักการพันธบัตร (banknote principle)" ซึ่งเคยห้ามไม่ให้บีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลมากกว่ามูลค่าของธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ
  • จะกำหนดให้ "ฐานเงิน (monetary base) เป็นเป้าหมายปฏิบัติหลักสำหรับการดำเนินการในตลาดเงิน แทนการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนในปัจจุบัน"
  • จะดำเนินการในตลาดการเงินเพื่อหนุนฐานเงินให้เพิ่มขึ้นเป็น 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ทั้งนี้ ฐานเงินคือปริมาณธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนอยู่ในมือประชาชนและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเงินฝากที่สถาบันการเงินสำรองไว้กับธนาคารกลาง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ