อนึ่ง นักลงทุนอาจจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น จีดีพีไตรมาส 1/56 และยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. รวมทั้งติดตามการประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) และการประชุมกลุ่ม G-20 ช่วงปลายสัปดาห์
อย่างไรก็ดีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้(8-12 เม.ย.) เงินบาทแข็งค่ากว่าระดับ 28.90 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งนับเป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปี ท่ามกลางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้า หลังจากที่ธนาคารกลางชั้นนำของโลก อาทิ ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต่อไป ประกอบกับมีการประเมินว่า มีแรงหนุนจากเม็ดเงินต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน BTSGIF ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ทั้งจากนักลงทุนและกลุ่มผู้นำเข้า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวขึ้นหลังจากบันทึกการประชุมเฟดระบุว่า มีผู้กำหนดนโยบายหลายท่านต้องการให้เฟดยุติการเข้าซื้อตราสารหนี้ทั้งหมดก่อนสิ้นปี 56 นี้ โดยเมื่อวันศุกร์(12 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.00 เทียบกับระดับ 29.28 บาท/ดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า(5 เม.ย.)